“ธนาธร”ต้านควบรวมทรู-ดีแทคจี้นายก ลงมาแก้ปัญหาหวั่นกระทบเศรษฐกิจดิจิทัล

05 ส.ค. 2565 | 09:23 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ส.ค. 2565 | 18:06 น.

“ธนาธร จึงรุงเรืองกจ” และคณก้าวหน้า เดินสายพบสื่อแสดงจุดยืนต้านควบรวม “ทรู- ดีแทค” ชี้ผูกขาด-กระทบผู้บริโภคดันราคาค่าบริการแพงขึ้น ไม่มีที่ไหนในโลกปล่อยให้ควบจาก 3 เหลือ 2 ราย จี้“นายกฯ”ลงมากำกับดูแล หวั่นกระทบการพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล  

วันนี้(5 ส.ค.65) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมคณะ ได้พบปะกับสื่อ “เครือเนชั่น” โดยแสดงจุดยืนคัดค้านดีลควบรวมทรู- ดีแทค พร้อมเรียกร้องให้ กสทช. ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลยุติการควบรวมนี้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภค ค่าบริการจะแพงขึ้นอีก 


“ไม่มีประเทศไหน ที่ให้มีการลดผู้ให้บริการลงจาก 3 ราย เหลือ 2 ราย ซึ่งจะกระทบต่อการเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล” 

ประธานคณะก้าวหน้า ยังเห็นว่า ดีลการควบรวมนี้ จะอยู่บนข้อสรุป 4 ข้อคือ


1.อนุญาตให้ควบรวมไม่มีเงื่อนไข


2.อนุญาตให้ควบรวมโดยมีการกำหนดมาตรการเฉพาะเชิงพฤติกรรม เช่น คุมราคา อัตราค่าบริการ


3.อนุญาตให้ควบรวมโดยมีกำหนดมาตรการเฉพาะเชิงโครงสร้าง เช่น การขายสินทรัพย์ออกมา เสา สถานีฐาน คลื่นความถี่ และ


4.ไม่อนุญาตให้เกิดการควบรวม

นายธนาธร อธิบายว่า ในส่วนของการควบรวมแบบมีเงื่อนไข เชิงพฤติกรรม หรือเงื่อนไขในเรื่องของค่าบริการ ไม่เคยมีอยู่จริง และเชื่อว่าทำไม่ได้ ดังนั้น คณะก้าวหน้าจึงมองว่า ไม่ควรให้ดีลนี้เกิดขึ้น เพราะเมื่อควบรวมไปแล้วจาก 3 ราย เหลือ 2 ราย หากจะกลับไปเป็น 3 อีก มันยากมาก ซึ่งส่วนใหญ่ทุกประเทศก็จะมีผู้ให้บริการอย่างน้อย 3 รายขึ้นไปทั้งนั้น ไม่มีใครให้ควบ 3 แล้ว เหลือ 2 เหมือนประเทศไทย 


“เรามองเรื่องการปกป้องผู้บริโภคสำคัญ เราต่อต้านกลุ่มทุนผูกขาด เรายึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก”


นายธนาธร กล่าวว่า การทำหน้าที่ของกสทช. หากมองที่จุดการของคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน กสทช. ต้องเลือกข้อ 4 คือไม่อนุญาตให้ควบรวม ซึ่งที่ตนบอกอย่างนี้ก็เพราะกสทช.ไม่มีทางรู้เท่าทันเล่เหลี่ยมของเอกชน หากกสทช.อนุญาตให้ควบรวม และกำหนดมาตรการเฉพาะเป็นสิ่งที่กสทช.จะต้องทำหน้าที่ยากมาก เพราะกสทช.ไม่รู้เท่าทันของเอกชนอย่างแน่นอน และที่ผ่านกสทช.ไม่เคยใช้ยาแรงใดๆ กำกับเอกชน ดังนั้น กสทช. ควรจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชน 


ภาพของประเทศไทยในอนาคตเราอยากเห็นอะไร อยากเห็นทุนนิยมที่ร่ำรวยจากการผูกขาดธุรกิจ หรืออยากเห็นประเทศไทยที่มีการออกดอกออกผลจากภาคธุรกิจที่ส่งผลถึงทุกคนในประเทศให้เกิดความเท่าเทียมกัน


“จุดยืนของผม คือ ไม่เห็นด้วยกับการควบรวมครั้งนี้ ต้องยุติ หากเป็นในต่างประเทศกรณีใหญ่แบบนี้ เรกูเลเตอร์ เขาจะเข้มแข็งมาก และพร้อมที่จะเข้ามาพิจารณาทันที ขณะที่ประเด็นนี้ เรื่องใหญ่ รัฐบาลต้องลงมากำกับดูแล หรือนายกฯ ต้องเข้ามาดู เพราะมันเกี่ยวพันกับการเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล คือ มันไม่มีแหล่งอ้างอิงว่ามีการควบผู้ให้บริการจาก 3 ราย เหลือ 2 มันมีแต่ 4 เหลือ 3 หรือ 5 เหลือ 4 ขณะที่การควบรวมกันยังทำให้มาร์เก็ตแชร์ทั้ง 2 รายใกล้เคียงกัน ที่สำคัญมันทำให้รายเล็กเกิดไม่ได้ และจะเกิดการฮั้วกันในที่สุด”


ประธานคณะก้าวหน้า ย้ำว่า ไม่ว่าในอนาคตเราจะชอบหรือไม่ชอบเศรษฐกิจดิจิทัล แต่สิ่งเหล่านี้จะถาโถมเข้ามาหาพี่น้องคนไทยทุกคนอย่างแน่นอน และเข้ามาในทุกอุตสาหกรรม ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรมโรงงาน การแพทย์สาธารณสุข 


ดังนั้น การควบรวมธุรกิจจะเป็นจุดที่สร้างความได้เปรียบของกลุ่มทุนใหญ่ในประเทศ ซึ่งจะทำให้อนาคตของผู้บริโภคจะอยู่ในกำมือของเอกชนกลุ่มทุนเพียงไม่กี่ราย 


“สิ่งเหล่านี้หาก กสทช. อนุญาตให้เกิดการควบรวม คนที่จะได้รับผลกระทบ ไม่เฉพาะแต่ประชาชน แต่ยังส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจองประเทศไทยอีกด้วย” นายธนาธร ระบุ