สำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. ประกาศแจ้งเตือนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ม.33) และมาตรา 39 (ม.39) ที่มีอายุครบ 55 ปี และปัจจุบันมีสถานะสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนแล้ว ให้ตรวจสอบสิทธิการได้รับบำเหน็จ หรือบำเหน็จชราภาพ พร้อมกับยื่นขอรับเงิน ณ สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด สามารถแจ้งรับเงินผ่านพร้อมเพย์ไม่ต้องใช้สำเนาหน้าบุ๊คแบงก์
โดย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สำนักงานประกันสังคม ได้แจ้งเตือนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ม.33) และมาตรา 39 (ม.39) ที่มีอายุครบ 55 ปีและปัจจุบันมีสถานะสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนแล้วให้ตรวจสอบสิทธิการได้รับบำเหน็จ หรือบำเหน็จชราภาพ พร้อมกับยื่นขอรับเงิน ณ สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด
สิทธิของผู้ประกันตนกรณีชราภาพ แบ่งออกเป็น 2 กรณี
1.รับบำเหน็จชราภาพ
2.รับบำนาญชราภาพ
ช่องทางการตรวจสอบสิทธิและยอดเงินสมทบชราภาพ
กรณีไม่สะดวกเดินทางไปยังสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 3 ช่องทาง
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบและทราบสิทธิที่จะได้รับแล้วสามารถยื่นขอรับบำเหน็จ หรือ บำเหน็จชราภาพได้ที่ สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด โดยใช้เอกสารเป็นบัตรประชาชนตัวจริง และกรอกใบคำขอ สปส. 2-01 หรือ SSO. 2-01 พร้อมแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ที่จะรับโอนเงิน
สำหรับผู้ประกันตนมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ใช้เลขบัตรประชาชนผูกกับบัญชีออมทรัพย์ สามารถแจ้งขอรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ไปพร้อมการยื่นคำร้องได้ โดยไม่ต้องใช้สำเนาสมุดบุญชีธนาคาร สำหรับบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์นั้นไม่สามารถใช้ได้