น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ด สสว.) ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 692.0052 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ว่าด้วยการรับและเบิกจ่ายเงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2544 หมวด 6 การงบประมาณ ข้อ 30 กำหนดว่า
“ถ้างบประมาณรายจ่ายประจำปีสำหรับปีใดออกไม่ทัน ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายเท่าที่เคยได้รับอนุมัติในปีที่ล่วงมาแล้วไปพลางก่อน” ในกรณีที่คณะกรรมการส่งเสริมฯ ไม่สามารถประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบงบประมาณปี 2566 ได้ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 อันเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณ 2566
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดังนี้
ทั้งนี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่มีมติแต่งตั้งเป็นต้นไป และให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้รับเบี้ยประชุมตามที่คณะกรรมการส่งเสริมฯ กำหนด โดย สสว.ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและการไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 7 ของบุคคลทั้ง 8 รายแล้ว ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแก้ไของค์ประกอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตามคำสั่งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ 1/2564 ดังนี้
จากเดิม “2. นายโอฬาร วีระนนท์ อนุกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” แก้ไขเป็น “2. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อนุกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” ทั้งนี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่มีมติแต่งตั้งเป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังเห็นชอบแก้ไของค์ประกอบของคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตามคำสั่งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ 1/2561 ดังนี้ จากเดิม “1.3 นายสรกิจ มั่นบุปผชาติ อนุกรรมการ” แก้ไขเป็น “1.3 นายพสุ โลหารชุน อนุกรรมการ” ทั้งนี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่มีมติแต่งตั้งเป็นต้นไป
“พล.อ.ประวิตร ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงาน เร่งดำเนินการส่งเสริมเอสเอ็มอี เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว