โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีอายุระหว่าง 16-60 ปี โดยกระทรวงการคลังคาดว่าจะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินได้ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2567
7 ก.พ. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์การแจกเงินรอบก่อน มีเพียง 5% ของงบประมาณ 1.9 แสนล้านบาท ที่ถูกนำไปใช้หนี้และเก็บออม แต่รัฐบาลต้องการให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการปรับปรุงระบบให้รัดกุมยิ่งขึ้น
การดำเนินโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 1 และเฟส 2 ให้ผู้ได้รับเงินสามารถถอนออกมาเป็นเงินสดใช้จ่ายที่ใดก็ได้ แต่เฟส 3 จะเป็นการแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้
โดยจะกำหนดเงื่อนไขใช้จ่ายได้ตามร้านค้าที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และการใช้จ่ายรอบแรกจะต้องอยู่ภายในเขตอำเภอตามบัตรประชาชนของแต่ละคนเท่านั้น
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนดังนี้:
1. อายุและสัญชาติ
2. เงื่อนไขด้านรายได้
ภาพประกอบเงินดิจิทัล 10000 เฟส 3
3. การลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐสำเร็จแล้ว
- ยืนยันตัวตนผ่าน e-KYC เรียบร้อย
- มีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน
ภาพประกอบข่าวเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3
ถาม: ลงทะเบียนไม่สำเร็จ สามารถลงทะเบียนใหม่ได้หรือไม่?
ตอบ: ไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ ต้องใช้การลงทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น
ถาม: เงินจะเข้าบัญชีเมื่อไหร่?
ตอบ: คาดว่าจะเริ่มทยอยโอนในช่วงมีนาคม-เมษายน 2568
ถาม: ไม่มีสมาร์ทโฟนต้องทำอย่างไร?
ตอบ: รอประกาศช่องทางลงทะเบียนพิเศษจากกระทรวงการคลัง
1. เตรียมพร้อมก่อนรับเงิน
2. หลังได้รับเงิน
3. ช่องทางติดต่อสอบถาม
หมายเหตุ: ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศจากทางราชการ ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่เว็บไซต์กระทรวงการคลัง