น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า ในปี 2568 สำนักงาน ก.พ.ร. จะเร่งผลักดันกฎหมายสำคัญ คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกระดับการบริหารงานภาครัฐให้มีความทันสมัย มีเป้าหมายพัฒนาระบบราชการให้มีความทันสมัยเป็นราชการแห่งอนาคต (Future Government)
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ยกระดับการบริหารงานภาครัฐให้มีความทันสมัย นั้น สำนักงาน ก.พ.ร. จะปรับให้การบริหารงานภาครัฐเกิดความคล่องตัวมากขึ้น สามารถทำแซนด์บ็อกซ์ เพื่อทดสอบหรือทดลองการทำงานราชการต่าง ๆ แบบนอกกรอบได้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเมื่อทำแล้วจะไม่ประสบความสำเร็จ และจะส่งผลกระทบต่องบประมาณ
“การทำแซนด์บ็อกซ์ มีตัวอย่างเช่น เมื่อข้าราชการคิดทำนวัตกรรมอะไรแบบนอกกรอบขึ้นมา ก็สามารถนำเงินงบประมาณลงไปทดลองได้ แต่การทำนวัตกรรมต่าง ๆ จะต้องมีเจตนาสุจริต และนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของราชการ หากทำแล้วพลาดก็ไม่ต้องมีความผิด หน่วยงานรัฐจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ตัวข้าราชการที่ทำโดยสุจริตจะถือว่าไม่มีความผิด” น.ส.อ้อนฟ้า ระบุ
พร้อมกันนี้ในการผลักดันกฎหมายยกระดับการบริหารงานภาครัฐ ฉบับนี้ จะเปิดช่องให้เกิดการดำเนินงานแบบ “รัฐเครือข่าย” คือสามารถดึงการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ช่วยกันแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 หรือการอุดหนุนดูแลสวัสดิการประชาชน ซึ่งจำเป็นต้องใช้กลไกความร่วมมือของทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมมือกัน และกำหนดตัวชี้วัดร่วมกันให้เกิดความสำเร็จต่อไป
อย่างไรก็ตามนอกจากร่าง พ.ร.บ.ยกระดับการบริหารงานภาครัฐให้มีความทันสมัย แล้ว ยังเตรียมผลักดันกฎหมายสำคัญในระดับ ร่าง พ.ร.บ. อีก 2 ฉบับ ในปี 2568 ด้วย นั่นคือ ร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน และ ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน โดยจะเร่งผลักดัน พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ ก่อน ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นของสภาผู้แทนราษฎร
“การผลักดันกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ สำนักงาน ก.พ.ร. จะพยายามผลักดันให้เสร็จสิ้นภายในปี 2568 นี้ โดยร่าง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนอีก 2 ฉบับ ที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว และจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป เพื่อจะได้ปรับปรุงระบบราชการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าว