ประธาน กสทช. แจงคดี “พิรงรอง” เป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช.

06 ก.พ. 2568 | 07:46 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2568 | 03:37 น.

ประธาน กสทช. เผยเรื่อง“พิรงรอง รามสูต” เป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. ต้องดำเนินการ หลังศาลอาญาฯ อ่านคำพิพากษาตัดสิน

จากกรณีที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ อท 147,71/2566 ระหว่าง บริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จำเลย เรื่อง เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ ศาลได้พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 จำคุก 2 ปี  

 

ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ให้ประกันตัว ‘พิรงรอง’ เพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์โดยให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 120,000 บาท ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หลังศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุก กสทช.พิรงรอง 2 ปี ไม่รอลงอาญา เหตุมีเจตนาแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เสียหาย

ขณะที่ นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.  ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าคำตัดสิน โดยได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีหากศาลตัดสินว่า กสทช.พิรงรอง  “เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ สำนักงาน กสทช.”

"ถามว่ากรณีนี้หนักใจไหมก็ต้องหนักใจหากมีการพิจารณาวาระที่มีการลงคะแนนเสียง หรือ ลงมติที่มีคะแนนเท่ากัน 3:3 ประธานกสทช.มีหน้าที่ตามกฎหมายที่มีหน้าที่การชี้ขาด และนำไปสู่การลงคะแนน 2 ครั้ง หรือ ดับเบิ้ลโหวต แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้"

 

ขณะที่แหล่งข่าว กสทช. เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.อาจจะต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ  ป.ป.ช.ดูว่าปฏิบัติหน้าที่ตามจริยธรรมหรือไม่ว่า