นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า บีโอไอจะดำเนินการร่วมกับธนาคาร SMBC และพันธมิตรภาคธุรกิจญี่ปุ่น จัดสัมมนาใหญ่ Thailand-Japan Investment Forum 2025 ที่กรุงโตเกียว เพื่อนำเสนอศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
โดยขณะนี้มีนักลงทุนและผู้บริหารบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นลงทะเบียนเข้าร่วมงานแล้วมากกว่า 300 ราย ซึ่งจะมีการนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล โอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สิทธิประโยชน์และมาตรการสนับสนุนจากบีโอไอและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนญี่ปุ่น
นอกจากนี้ จะมีการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากบริษัทญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในไทย อีกทั้งจะมีการร่วมออกบูธให้ข้อมูลโดยผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade Center)
,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมของไทย (อมตะ WHA โรจนะ เอเซีย) ธนาคารกรุงเทพ องค์กรส่งเสริมการค้าและการลงทุนในต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สมาคมความร่วมมือทางเทคนิคในต่างประเทศของญี่ปุ่น (AOTS) สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น - ไทย (JTECS) และธนาคาร SMBC
“BOI” รุกดึงญี่ปุ่นลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ – ยานยนต์ - เกษตรอัจฉริยะ
นอกจากนี้ คณะรัฐบาลไทยจะพบกับผู้บริหารบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นเป็นรายบริษัท ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ เกษตรและอาหาร เพื่อหารือแผนขยายการลงทุนในประเทศไทย
อีกทั้งจะพบกับ นายมูโตะ โยจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เพื่อหารือความร่วมมือด้านการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ภายใต้กรอบความร่วมมือ Energy and Industry Dialogue (EID)
รวมถึงหน่วยงานสำคัญของญี่ปุ่น เช่น Leading-Edge Semiconductor Technology Center (LSTC) สถาบันด้านเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของญี่ปุ่น และหน่วยงานด้านเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะและเทคโนโลยีพลังงาน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของไทยด้วย
“นักลงทุนญี่ปุ่น ถือเป็นพันธมิตรสำคัญของไทย ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเป็นประเทศที่มีเงินลงทุนสะสมมากที่สุดในประเทศไทย“
สำหรับการจัดโรดโชว์ดังกล่าวมีเป้าหมาย 2 ประการ ได้แก่ การสร้างความมั่นใจในหมู่นักลงทุนญี่ปุ่น ทั้งที่มีฐานอยู่ในไทยแล้ว และที่กำลังตัดสินใจโยกย้ายฐานการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อเกิดความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยยังคงสนับสนุนและพร้อมเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่มั่นคงในอนาคต
และการนำเสนอโอกาสการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ เช่น เซมิคอนดัคเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท (xEV) เกษตรอัจฉริยะ อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง พลังงานใหม่ รวมทั้งกลุ่ม SMEs และ Startup ของญี่ปุ่น ซึ่งมีศักยภาพที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศ
นายนฤตม์ กล่าวอีกว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2563 – 2567) ญี่ปุ่นได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวน 1,176 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์