“ฐานเศรษฐกิจ” ยังเกาะติดความคืบหน้าแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 3 หลังจาก คณะคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้อนุมัติแจกเงินหมื่น เฟส 3 ให้กับกลุ่มอายุ 16-20 ปี
เงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิเงินหมื่นเฟส 3
- อายุ 16-20 ปี
- ตัดยอด อายุ ณ วันที่ลงทะเบียน ต้องเกิด วันที่ 16 ก.ย. 2547 ถึง 16 ก.ย. 2551
- ผู้ได้รับสิทธิ์จำนว 2.7 ล้านคน
กดเป็นเงินสดได้ไหม?
- สำหรับเงิน 10,000 บาทเฟส 3 ใช้จ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถกดเป็นเงินสด ตั้งเป้าหมายแจกเงินดิจิทัลภายในไตรมาส 2/2568 เพื่อใช้จ่ายกับร้านค้าที่ร่วมโครงการผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
เปิดรับสมัครร้านค้าร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 วันไหน
- กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการแจกเงิน 10,000 เฟส 3 โดย กรมการค้าภายในเปิดรับสมัครภายในเดือนเมษายน –พฤษภาคม 2568
ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ไหน
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เปิดให้ร้านค้ารเข้ามาลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคารต่าง ๆ เช่น QR Code Tag 30 เพื่อใช้ในการรับชำระเงินในการซื้อขาย โดยสำหรับร้านค้าทั่วไป นอกเหนือจากการลงทะเบียนล่วงหน้ากับกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้สมัครผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ประมาณเดือน เม.ย. - พ.ค. 2568
ลงทะเบียนร้านค้าแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 รับสมัครวันไหน
ร้านค้าประเภทไหนไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ร้านค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เบื้องต้นประกอบไปด้วย ปั๊มน้ำมัน ร้านทอง ร้านเพชร และ ร้านอัญมณี
ขั้นตอนการใช้จ่าย
การใช้จ่ายเงินหมื่นเฟส 3 ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในพื้นที่อำเภอเดียวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของประชาชน และการใช้จ่ายเงินดิจิทัลของร้านค้า สามารถใช้จ่ายได้กับทุกร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า
ทั้งนี้การถอนเงินสด ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันที หลังประชาชนใช้จ่าย ร้านค้าทุกประเภทจะสามารถถอนเงินสดได้ เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป
วิธีใช้จ่ายผ่าน Digital Wallet รายละเอียดดังนี้
สำหรับวิธีการใช้จ่ายเงิน 10,000 เฟส 3 โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่ได้เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ https://digitalwallet.go.th/ วิธีการใช้จ่ายดังนี้
รอบที่ 1 เป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็ก
- ประชาชนต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
- ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง
- เป็นการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยประชาชนต้องมีที่อยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอเดียวกันกับสถานประกอบการของผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็ก
- การซื้อ-ขายสินค้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้ากันแบบพบหน้า (face-to-face) และไม่มีกระบวนการใด ๆ ในการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด และไม่ให้ทำซ้ำ ส่งต่อหรือวิธีการอื่นใดกับ QR Code ในแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว
รอบที่ 2 เป็นต้นไป เป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า
- ผู้ประกอบการร้านค้าต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าอีกแห่งหนึ่ง
- ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง.
ที่มา: