พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับโครงการที่สร้างคุณค่า ส่งเสริมอาชีพ และเชื่อมต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่นให้กับชุมชน สู่การสร้างรายได้และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
โดยดำเนินการผ่านโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปี 7 ซึ่งมีแนวคิดในการขับเคลื่อนด้านการพัฒนา การบริหารจัดการชุมชน ด้านผลิตภัณฑ์ชุมชน และบริการชุมชนที่มีเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้มีสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตที่เอื้อต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว
อีกทั้งปีนี้ยังได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนด้านการพัฒนา Soft Power ให้ชุมชนสามารถใช้จุดแข็งของตนเอง เช่น อาหารพื้นบ้าน ศิลปหัตถกรรม และแหล่งท่องเที่ยว มาพัฒนาต่อยอด ผ่านการสนับสนุนองค์ความรู้จากทีมที่ปรึกษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาชุมชนในมิติต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นเกิดการหมุนเวียน
“กองสลากฯมุ่งให้โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักสำคัญในการนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการดำเนินการมาใช้ดูแลสังคมและชุมชน สนับสนุนชุมชนไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านโครงการที่สร้างผลกระทบเชิงบวก เพราะเชื่อว่าความเข้มแข็งของชุมชนคือรากฐานสำคัญของความมั่นคงของประเทศ”
สำนักงานสลากฯ ดันภูมิปัญหาท้องถิ่นสร้างรายได้ ดันเศรษฐกิจไทย
สำหรับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน จะต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 100 คน หรือไม่น้อยกว่า 50 หลังคาเรือน และมีพื้นฐานด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรม รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว
โดยในปี 2568 ได้รับความสนใจจากชุมชนต้นแบบจากทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 26 ชุมชน และคณะกรรมการได้ทำการคัดเลือกชุมชนที่มีศักยภาพในการพัฒนาจำนวน 14 ชุมชน แบ่งเป็น 10 ชุมชนใหม่ และ 4 ชุมชนเดิมจากโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปี 1-6 เพื่อลงพื้นที่ไปพัฒนาการบริหารจัดการชุมชนอย่างใกล้ชิด
ซึ่งชุมชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการพัฒนาจากทีมที่ปรึกษาของโครงการฯ ทั้ง 4 ด้านประกอบด้วย ด้านการพัฒนาชุมชนด้านกลยุทธ์การตลาด ด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร
รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การจัดทำ E-Catalog นำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการเด่นของชุมชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ปี 1-7 และการพัฒนาป้ายสำคัญในชุมชนและเอกสารแนะนำชุมชน รวมถึงการประชาสัมพันธ์ชุมชนให้เป็นที่รู้จักเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น การจัดงานแถลงข่าวโครงการฯ การจัดการท่องเที่ยวชุมชน การเผยแพร่ข้อมูลชุมชน ผ่านสถานีโทรทัศน์/Youtuber เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำแผนการยกระดับชุมชนฯ แผนการตลาดออนไลน์และแผนการเชื่อมโยงความสำเร็จเชิงพาณิชย์ให้กับทุกชุมชน โดยตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 1-7 มีจำนวนชุมชนที่ได้รับการพัฒนาแล้วทั้งหมด 67 ชุมชน