ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ทุกคันที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐ เริ่ม 3 เม.ย.นี้
ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศในอัตรา 25% สำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 3 เมษายน นี้ ครอบคลุมรถยนต์โดยสาร รถบรรทุกขนาดเล็ก และชิ้นส่วนสำคัญ คาดสร้างรายได้มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศในอัตรา 25% สำหรับ "รถยนต์ทุกคันที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐอเมริกา" โดยระบุว่าจะไม่มีการเก็บภาษีสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศสหรัฐฯ
มาตรการนี้ได้รับการลงนามในคำประกาศของประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน และจะเริ่มเก็บภาษีในวันที่ 3 เมษายน นี้
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
วิล ชาร์ฟ ที่ปรึกษาทำเนียบขาวภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ชี้แจงว่า ภาษีใหม่นี้จะครอบคลุม "รถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กที่ผลิตในต่างประเทศ" และจะเป็นภาษีเพิ่มเติมจากอัตราภาษีที่มีอยู่เดิม โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับสหรัฐฯ "มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี"
ตามแถลงการณ์จากทำเนียบขาว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำประกาศอ้างอิงมาตรา 232 ของกฎหมายขยายการค้าปี 1962 เพื่อเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์บางประเภท โดยระบุว่าเป็นการจัดการกับภัยคุกคามที่สำคัญต่อความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ
ภาษี 25% จะถูกนำมาใช้กับรถยนต์โดยสารที่นำเข้า (รถซีดาน รถเอสยูวี รถครอสโอเวอร์ รถมินิแวน รถตู้ขนส่งสินค้า) และรถบรรทุกขนาดเล็ก รวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์สำคัญ (เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ชิ้นส่วนระบบส่งกำลัง และชิ้นส่วนไฟฟ้า) พร้อมกระบวนการขยายภาษีไปยังชิ้นส่วนเพิ่มเติมหากจำเป็น
ชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นไปตามข้อตกลง USMCA จะยังคงปลอดภาษีจนกว่ารัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ โดยปรึกษากับหน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) จะกำหนดกระบวนการในการเก็บภาษีสำหรับส่วนประกอบที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอน วิจารณ์มาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ทันที และให้คำมั่นว่าสหภาพยุโรปจะ "ยังคงแสวงหาทางออกด้วยการเจรจา ขณะที่ปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของตน"
"ภาษีคือการเก็บภาษี — ซึ่งส่งผลเสียต่อธุรกิจ และแย่ยิ่งกว่านั้นต่อผู้บริโภคทั้งในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป" เธอกล่าวในแถลงการณ์
หุ้นของบริษัทรถยนต์ปรับตัวลดลงในการซื้อขายหลังเวลาทำการหลังจากการประกาศของทรัมป์ โดยหุ้นของ General Motors, Stellantis และ Ford Motor ทั้งหมดลดลงประมาณ 5% ในการซื้อขายช่วงเย็น
สหรัฐฯ นำเข้าผลิตภัณฑ์ยานยนต์มูลค่า 4.74 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2024 รวมถึงรถยนต์โดยสารมูลค่า 2.2 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเม็กซิโก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา และเยอรมนี ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุด