PSP ทุ่ม 409.5 ล้านรุกธุรกิจสีเขียวดันไทยฮับรีไซเคิลภูมิภาค

09 เม.ย. 2568 | 08:06 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2568 | 08:06 น.

PSP ทุ่ม 409.5 ล้านซื้อหุ้น 65% รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง เดินหน้าขยายพอร์ตการลงทุนธุรกิจสีเขียว ดันไทยศูนย์กลางรีไซเคิลภูมิภาค

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการทุมเงินกว่า กว่า 409.5 ล้านบาท เพื่อขยายพอร์ตธุรกิจสีเขียว

รวมถึงต่อยอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีรีไซเคิล พลิกของเสียเพิ่มมูลค่า ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ่านนวัตกรรมการรีไซเคิล เพื่อเสริมศักยภาพภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล 

โดยการเข้าถือหุ้น 65% ใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ซึ่งถือเป็นการรวมจุดแข็งของทั้งสองบริษัท ในด้านการขยายฐานลูกค้าจากเครือข่ายลูกค้าปัจจุบันของ PSP และ RE

นอกจากนี้ PSP ยังจะได้ต่อยอดองค์ความรู้เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืน ขณะที่ RE ได้ประโยชน์ด้านมาตรฐานการผลิตและการบริหารจัดการ และตอบโจทย์อุตสาหกรรมอนาคต Net Zero และความยั่งยืน ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลแห่งภูมิภาค

PSP ทุ่ม 409.5 ล้านรุกธุรกิจสีเขียวดันไทยฮับรีไซเคิลภูมิภาค

“การเข้าถือหุ้นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ของ PSP ในการขยายธุรกิจสู่ภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกองค์กรทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ” 

อีกทั้ง ยังเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมรีไซเคิลสารเคมีของไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการต่อยอดองค์ความรู้ด้านการรีไซเคิลที่สามารถเปลี่ยนของเสียให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรม และสนับสนุนเป้าหมายการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า  

“การเข้าถือหุ้น RE ดังกล่าวถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของ PSP ในหลายด้าน โดยเฉพาะในการบริหารจัดการของเสียและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียนของ Mega Trend ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั่วโลก“

นางสาวปิยะธิดา มหัทธนารักษ์ กรรมการ รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) กล่าวว่า การเข้ามาถือหุ้นของ PSP ดังกล่าว เป็นการยกระดับศักยภาพของ RE รวมถึงช่วยทำให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรสำคัญที่จำเป็นต่อการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายลูกค้าขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม มาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมไปถึงระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

นอกจากนี้ ยังช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลง และช่วยให้บริษัทมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น