นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือโออาร์ (OR) เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการวางแผนดำเนินธุรกิจในอนาคตจาก OR: Oil and Retail เปลี่ยนเป็น RO:Retail and Oil
ทั้งนี้ การปรับกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นไปตามสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนผ่านจากพลังงานน้ำมันหรือฟอสซิล เข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด เพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยพร้อมส่งไม้ต่อให้ซีอีโอคนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่ง แทนตนที่จะหมดวาระวันที่ 30 ก.ย.2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการคัดเลือก ว่าจะเป็นรูปแบบการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมมาสานต่อเป้าหมายต่างๆ ที่วางไว้
สำหรับปี 2573 โออาร์ตั้งเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ครอบคลุมมากกว่า 15,000 ชุมชน หรือกว่า 12 ล้านชีวิต สร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ โดยการลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจให้ได้มากกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 33% เมื่อเทียบกับปี 2558
รวมทั้งตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-Neutrality) และบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2593 และสร้างการเติบโต สร้างอาชีพ และการกระจายความมั่งคั่งสู่คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ผู้ประกอบการขนาดย่อม พนักงาน และชุมชนมากกว่า 1 ล้านราย ผ่านการเติบโตโดยการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเป็นหลัก
“โออาร์ตั้งเป้ามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม(EBIDA) ในธุรกิจน้ำมันและยานยนต์ไฟฟ้า 35% จากปัจจุบันอยู่ที่ 75% จากการขยายการลงทุนขยายไปยังต่างประเทศ 13% จาก 4% จากธุรกิจไลฟ์สไตล์ 28% โดยมั่นใจโออาร์ยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 เกือบ 40%”
ปัจจุบันโออาร์มีสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น 2,473 สาขา มีลูกค้า 3.8 ล้านคนต่อวัน มีคาเฟ่ อเมซอน 4,051 สาขา มีร้านสะดวกซื้อ 2,183 สาขา มีการสร้างเครือข่ายเอสเอ็มอี 13,000 ธุรกิจ มีการจับคู่ธุรกิจ 2,600 ธุรกิจ มีการลงทุนในต่างประเทศ 10 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ กัมพูชา ลาว เวียดนาม เมียนมา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น และโอมาน