เศรษฐกิจเริ่มฟื้นดันความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดีดตัวดีขึ้นในรอบ7เดือน

11 ส.ค. 2565 | 07:16 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ส.ค. 2565 | 14:24 น.

หอการค้าไทย เผย ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ค. 65 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ7เดือน หลังผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้น นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แม้ กนง. ชี้ยังไม่กระทบถึงผู้บริโภค เนื่องธนาคารตรึงดอกเบี้ยเงินกู้อยู่

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนกรกฎาคมว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนกรกฎาคม  อยู่ที่ระดับ 42.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน อยู่ที่ระดับ 41.6 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 7 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 36.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ระดับ 39.8

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ระดับ 50.8ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่

 

 

 

โดยปัจจัยบวกที่มีผลต่อทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คือ 1.ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ และยกเลิกระบบ Thailand Pass ตั้งแต่ 1 ก.ค., การปรับระดับพื้นที่ควบคุมโควิดเป็นสีเขียวทั่วประเทศ, การเปิดสถานบันเทิงถึงตี 2 ส่งผลเชิงบวกต่อการท่องเที่ยวของไทย

เศรษฐกิจเริ่มฟื้นดันความเชื่อมั่นผู้บริโภค  ดีดตัวดีขึ้นในรอบ7เดือน

2.การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของทั่วโลกมีมากขึ้น ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและคลายความวิตกกังวล รวมทั้งสถานการณ์ผู้ติดเชื้อลดลง 3.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 เป็น 3.5% จากปัจจัยการฟื้นตัวของอุปสงค์

ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ผู้บริโภคยังกังวลว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้า, ความวิตกกังวลต่อการระบาดของโรคโควิดที่ยังคงมีอยู่, ความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งกระทบต่อราคาพลังงานและต้นทุนการผลิตสินค้าให้สูงขึ้น, เงินบาทปรับตัวอ่อนค่า เป็นต้น

เศรษฐกิจเริ่มฟื้นดันความเชื่อมั่นผู้บริโภค  ดีดตัวดีขึ้นในรอบ7เดือน

“แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะดีขึ้น แต่ดัชนีในภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวช้าจากวิกฤติโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนเข้ามาซ้ำเติม ยิ่งส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในเชิงลบอย่างมากต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และการจ้างงานในอนาคต ซึ่งยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้”

เศรษฐกิจเริ่มฟื้นดันความเชื่อมั่นผู้บริโภค  ดีดตัวดีขึ้นในรอบ7เดือน

อย่างไรก็ดี หากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยผู้บริโภคจะกลับมาบริโภคสินค้าและบริการโดดเด่นขึ้นในปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จะขยายตัวได้ในกรอบ 3.0-3.5% อย่างไรก็ตาม หากความเชื่อมั่นยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยผู้บริโภคจะกลับมาบริโภคสินค้าและบริการโดดเด่นขึ้นในปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป