นายสมศักดิ์ ทะระถา ผู้อำนวยการสำนักงานสาขาเชียงใหม่ บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (เซ็นทรัลแล็บไทย) กล่าวว่า หลังจากมีการปลดล็อกให้ สมุนไพร กัญชง กัญชา ออกจากรายชื่อยาเสพติดประเภท 5 และกฎหมายอนุญาตให้นำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ หรือ ผลิตภัณฑ์แปรรูปได้นั้น
พบว่ามีผู้ประกอบการ นำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ กัญชง กัญชา เข้ามาทดสอบทางห้องปฏิบัติการจำนวนมาก เพื่อรองรับการทดสอบดังกล่าว เซ็นทรัลแล็บไทย ได้เพิ่มศักยภาพทางห้องปฏิบัติการ ให้ครอบคลุมงานบริการด้านการตรวจวิเคราะห์ประเภทผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น
ตั้งแต่ปลดล็อกพืชกัญชา กัญชง ออกจากบัญชียาเสพติด มีผลิตภัณฑ์ส่งตรวจกว่า 1,000 รายการ เน้นตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนถึงมือผู้บริโภค โดยกระบวนการทดสอบวัตถุดิบจากพืชกัญชากัญชง สารสกัด และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
ได้แก่ น้ำมันกัญชา น้ำมันกัญชง เครื่องสำอาง รวมไปถึงอาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่มีกัญชา กัญชงผสม โดยตามขั้นตอนจะตรวจสอบสารสำคัญ ทั้ง THC,CBD และรายการอื่น ๆ ตามมาตรฐานกำหนด
ถ้าพบปริมาณสูงเกินไป เสี่ยงอันตรายกับผู้บริโภค ผู้ประกอบการต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อผ่านการทดสอบ จะได้รับใบรายงานผล (Test Report) ที่จะไปขอขึ้นทะเบียน อย.ได้
“ปัจจุบันเป็นการแข่งขันเรื่องเปอร์เซ็นของ THC และCBD ของกัญชง กัญชา ด้านการออกฤทธิ์ ดังนั้น แล็บ จึงทำหน้าที่ ตรวจสอบตัวอย่างที่ผู้ประกอบการนำมาส่งตรวจว่าอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ที่ภาครัฐกำหนด หรือเกณฑ์ของผู้ประกอบการที่กำหนดเพื่อประเมินว่าอยู่ในมาตรฐานหรือไม่ และสามารถนำไปผลิตต่อได้ เมื่อนำไปผลิตแล้วจะปลอดภัยต่อผู้บริโภค” ผอ.สำนักงานสาขาเชียงใหม่กล่าว
ผู้อำนวยการสำนักงานสาขาเชียงใหม่ ยังกล่าวว่า ตอนนี้คนมักไปมุ่งเน้นไปที่ตัวกัญชง กัญชา แต่จริงๆ แล้ว ปัจจัยที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งต้องเริ่มจากต้นทาง คือ แหล่งน้ำ พื้นที่ปลูก โดยปัจจุบันจะต้องอ้างอิงตามมาตรฐาน GAP หรือแนวทางการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี
ซึ่งระบบ GAP จะต้องตรวจสอบความปลอดภัยของแหล่งน้ำ ดิน ปุ๋ย ซึ่งเป็นปัจจัยการเกษตรต่าง ๆ ที่ต้องดูว่ามีค่าเกินมาตรฐานหรือไม่ ปลอดภัยหรือไม่ อาทิเช่น โลหะหนัก สารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลัก สําหรับการเพาะปลูกที่จะนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม การปลดล็อกกัญชา มีหลายมิติ ทั้งเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการต่อยอดพืชเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเซ็นทรัลแล็บไทย ได้ทั้ง 6 สาขา ประกอบด้วย กรุงเทพ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ สมุทรสาครและสงขลา