ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA เปิดเผยว่า ขณะนี้ CEA ได้เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองและย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative City & Creative District Development) ผ่านเครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย (Thailand Creative District Network: TCDN)
โดยการขยายผลจากความสำเร็จใน 5 ย่านเศรษฐฏิจสร้างสรรค์ต้นแบบ ได้แก่ ย่านเจริญกรุง กทม., ย่านช้างม่อย จ.เชียงใหม่, ย่านศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น, ย่านเมืองเก่า จ.สงขลา และ ย่านเจริญเมือง จ.แพร่ สู่พื้นที่เป้าหมาย 33 ย่านตามโรดแมปแผนระยะ 3 ปี (ปี2563-2565) ที่จะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง สร้างรายได้ และพัฒนา Soft Power ซึ่งนำมาสู่การยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
สำหรับเมืองสร้างสรรค์ (Creative City) ตามนิยามของยูเนสโก จะต้องมาจากการเป็นเมืองที่มีศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากเอกลักษณ์ในท้องถิ่น ไปจนถึงนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนในพื้นที่และผู้มาเยือน ซึ่งจุดเริ่มต้นไปสู่เมืองสร้างสรรค์ จะต้องเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ อย่าง ย่านเมื่อย่านดี เมืองก็จะเกิดการขยายตัวและดีตามไปด้วย
และหากมีการส่งเสริมครบ 5 ยุทธศาสตร์ ก็จะเป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้นแบบ โดยโมเดลการพัฒนาพื้นที่เริ่มต้นจากการเข้าร่วมโครงการ TCDN จึงได้ต่อยอดจาก 5 ย่านต้นแบบ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยการดึงอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่มาสร้างเป็นจุดขายในพื้นที่อื่นตามมา
นางสาวมนฑิณี ยงวิกุล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า โมเดล 5 ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้นแบบได้รับการพัฒนาครบในทุกมิติ ทั้ง 5 ด้านได้แก่
“ขณะนี้พื้นที่ที่คัดเลือกมาพัฒนาเป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์มีทั้งหมด 33 ย่าน การพัฒนาใช้เวลาอย่างน้อย 3-5 ปี โดยการพัฒนาจะยึดโมเดล 5 พื้นที่ดังกล่าวที่ประสบความสำเร็จมาเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่น ๆ”
ย่านเจริญกรุง กรุงเทพฯ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดที่สุด เช่น โครงการถนนคนเดินเจริญกรุง ที่มุ่งพัฒนาเมืองให้น่าอยู่อย่างยั่งยืนด้วยการให้ความสำคัญกับพื้นที่สาธารณะและทางเท้าควบคู่กันไป มีการออกแบบทางเดิน ทางข้ามให้มีความโดดเด่นและทันสมัย เพื่อสร้างความปลอดภัยในการข้ามถนน จากกลุ่มนักออกแบบหลายสาขาที่มีความคิดสร้างสรรค์มาร่วมกันพัฒนา
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอีกหลายอย่าง อาทิ เฟอร์นิเจอร์ของชุมชน ศาลาที่พักผู้โดยสารประจำทางตลาดน้อย การแปลงโฉมร้านค้า และ พื้นที่ในชุมชน ฯลฯ และการจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week)
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจพบว่าเกิดกระแสการลงทุนใหม่ในพื้นที่ ก่อให้เกิดธุรกิจสร้างสรรค์ ถึง 20 แห่งในย่านเจริญกรุง ในปี 2021 จากเดิมที่ซบเซาและปิดตัวลงไปหลายแห่ง ถือเป็นความสำเร็จที่สามารถช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในย่านนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
จังหวัดขอนแก่น CEA ได้ปักหมุดที่ย่านศรีจันทร์ ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่า เเละย่านธุรกิจที่สำคัญรวมถึงเป็นพื้นที่จัดงานใหญ่ เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival) ประจำปี จึงเป็นที่มาของโครงการสร้างสรรค์ศรีจันทร์ (CO - CREATE SRICHAN)
ซึ่งเป็นโครงการที่มีความร่วมมือหลายองค์กร ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนเเก่น ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ขอนแก่น ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) บริษัท ขอนเเก่นพัฒนาเมือง จำกัด มหาวิทยาลัยขอนเเก่น และเครือข่ายศรีจันทร์คลับ กลุ่มคนรักศรีจันทร์ เพื่อพัฒนาย่านศรีจันทร์ให้เป็นย่านสร้างสรรค์ต้นเเบบของจังหวัดขอนเเก่น ที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วน ที่นำมาสู่การสร้างเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านการจัดกิจกรรมที่เกิดขึ้น โดยการรวมตัวกันของผู้ประกอบการในย่านศรีจันทร์โดยได้รับการสนับสนุน จากทั้งภาครัฐเเละภาคเอกชน
จังหวัดสงขลา พื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติ ผู้คน ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สำหรับพื้นที่นำร่องในการพัฒนาให้เป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้นแบบ ได้แก่ ย่านเมืองเก่าสงขลา และเป็นที่ตั้งของ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) สงขลา ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ที่จะจัดตั้งแล้วเสร็จภายในปี 2567
ซึ่งจะเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทั้งยังส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่น รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิต ผ่านกิจกรรมนำร่องต่าง ๆ เช่น กิจกรรมครอบครัวเมืองเก่าสงขลา ปี 2563 (PORTRAIT OF SONGKHLA) นิทรรศการเรื่องเล่าย่านเมืองเก่าสงขลาผ่านภาพถ่ายชาวสงขลา เป็นแนวคิดการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน กลุ่มวิชาชีพสร้างสรรค์ และ ภาคการศึกษา ระหว่างสงขลา-หาดใหญ่ และ กรุงเทพฯ
โดยถ่ายทอดกระบวนการต่อยอดสินทรัพย์และเผยแพร่อัตลักษณ์วัฒนธรรมในพื้นที่สู่การกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ โดยตลอดระยะเวลาการจัดงาน (11 - 27 ก.ย. 2563) เกิดความร่วมมือของชาวสงขลา กว่า 200 คน เกิดการสร้างเครือข่ายนักสร้างสรรค์กว่า 51 คน และร้านค้าท้องถิ่นในย่านยอดขายเพิ่มขึ้น 20 - 30% พร้อมต่อยอดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่พื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดและผลักดันให้จังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภูมิภาคใต้
ขณะที่ย่านเมืองเก่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ และงานประเพณีที่แสดงถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันหลากหลาย รวมทั้งมีชุมชนท้องถิ่น ผู้ประกอบการธุรกิจ นักออกแบบ และช่างฝีมือเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นการต่อยอดด้วยการพัฒนาให้เป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้นแบบ ในย่านช้างม่อย จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการนำร่องต่าง ๆ เช่น โครงการเมด อิน ช้างม่อย (Made in Chang Moi) ที่สนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจในย่าน ด้วยการจับคู่ทำงานร่วมกับนักออแบบรุ่นใหม่ ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์การตลาดมากยึ่งขึ้น ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนนึงของการจัดเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chaing Mai Design Week)