สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ซึ่งได้จัดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-14 มีนาคม 2568 เป็นระยะเวลา 15 วัน ผ่านระบบกลางของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
ผลการรับฟังความคิดเห็นพบว่า มีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นกว่า 71,000 คน โดยภาพรวมมีผู้เห็นด้วยกับร่างกฎหมายประมาณ 80% และไม่เห็นด้วยประมาณ 20% ในทุกหมวดของร่างกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงในหลายประเด็นสำคัญฐานเศรษฐกิจสรุปได้ดังนี้
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.75% ไม่เห็นด้วย 19.25%
ในส่วนของบททั่วไป มีข้อเสนอให้ปรับปรุงคำนิยามบางคำให้มีความชัดเจนมากขึ้น เช่น คำว่า "การให้บริการเพื่อการท่องเที่ยว การพักผ่อนหย่อนใจ หรือนันทนาการ" ในนิยาม "ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" รวมถึงการอ้างอิงนิยาม "การพนัน" ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน และการกำหนดรายละเอียดของคำว่า "ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง" ในนิยาม "พนักงานเจ้าหน้าที่"
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการร่วมกับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรโดยตำแหน่งอยู่แล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่ชัดเจนในการออกใบอนุญาต โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตซ้อนใบอนุญาต รวมถึงการออกกฎหมายลำดับรอง และการใช้อำนาจในการกำกับดูแล
ทั้งนี้ สศค. ได้ชี้แจงว่า พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มิได้มีการกำหนดนิยามคำว่า "การพนัน" ไว้ จึงมิอาจอิงนิยามจากพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ สำหรับประเด็นอื่น ๆ จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ ต่อไป
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.74% ไม่เห็นด้วย 19.26%
ในหมวดนี้ มีข้อเสนอให้เพิ่มอำนาจในการส่งเสริมการลงทุน การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ และการออกหลักเกณฑ์ด้านธรรมาภิบาล
มีข้อเสนอให้เพิ่มอำนาจในการกำหนดให้ผู้เข้าเล่นพนันจากต่างประเทศสามารถนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาและนำเงินออกนอกประเทศได้โดยปราศจากข้อจำกัด และอนุญาตให้ผู้รับใบอนุญาตสามารถประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราได้ภายในสถานประกอบการกาสิโน
ด้านองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายฯ มีข้อเสนอให้เพิ่มผู้แทนจากภาคเอกชน ภาคประชาชน และผู้เชี่ยวชาญอิสระเข้าร่วมเป็นองค์ประกอบ รวมถึงให้มีคณะกรรมการตรวจสอบอิสระ
ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ มีข้อเสนอให้กำหนดจำนวนขั้นต่ำ เช่น ไม่น้อยกว่า 3 คน และให้เพิ่มสาขาความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและด้านความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงให้มีผู้แทนจากภาคประชาสังคม และการกำหนดกระบวนการสรรหาที่โปร่งใส
ในเรื่องการประชุมและลงมติ มีข้อเสนอให้ระบุองค์ประชุมและการลงมติให้ชัดเจน และเปิดช่องให้มีการประชุมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมถึงระบุหลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมและผลตอบแทนให้ชัดเจน
สศค. ชี้แจงว่า มาตรา 6/1 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 กำหนดว่า เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การนำเงินเข้ามาและนำเงินออกนอกประเทศจึงควรเป็นไปตามที่ พ.ร.บ. ควบคุมฯ และกฎหมายลำดับรองกำหนด
นอกจากนี้ ข้อ 3 ของกฎกระทรวงฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2497) กำหนดห้ามมิให้บุคคลใดประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยการชำระเงินต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีหรือได้รับการขึ้นทะเบียนจากเจ้าพนักงาน ดังนั้น หากผู้รับใบอนุญาตตามร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ จะให้บริการเกี่ยวกับปัจจัยการชำระเงินต่างประเทศ ย่อมต้องได้รับอนุญาตหรือได้รับการขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ. ควบคุมฯ เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินของประเทศ
สำหรับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สศค. ชี้แจงว่า มาตรา 6 แห่งพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 กำหนดว่า ประธานกรรมการตามร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ สามารถกำหนดให้จัดการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้อยู่แล้ว
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.75% ไม่เห็นด้วย 19.25%
ในหมวดนี้ มีข้อเสนอให้พิจารณาเพิ่มผู้แทนจากภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรม สมาคมธนาคารไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญอิสระ และตัวแทนประชาชน รวมถึงพิจารณาความจำเป็นและบทบาทของปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ในส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีข้อเสนอให้กำหนดคุณสมบัติให้ชัดเจน เช่น เน้นด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคและการพนัน ด้านสังคมวิทยาและอาชญาวิทยาที่เกี่ยวกับพนัน ด้านการจัดการการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ ด้านการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ และด้านกฎหมายธุรกิจ กฎหมายการพนัน และกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงเพิ่มผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยี
มีข้อเสนอเกี่ยวกับอำนาจคณะกรรมการบริหาร โดยเสนอให้เพิ่มเรื่อง "การเปิดเผยข้อมูล" ที่เกี่ยวกับการดำเนินงาน การบริหารงานบุคคล การเงิน การจัดซื้อจัดจ้าง และการตรวจสอบภายใน นอกจากนี้ ยังเสนอให้กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการจัดทำแผนและงบประมาณ กำหนดแนวทางการทำงานกับหน่วยงานกำกับดูแลเดิม และเพิ่มอำนาจในการตรวจสอบและกำกับดูแลที่ชัดเจนขึ้น
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.75% ไม่เห็นด้วย 19.24%
ในหมวดนี้ มีข้อเสนอให้ระบุวัตถุประสงค์และหน้าที่ของสำนักงานให้ชัดเจน โดยระบุว่า "การส่งเสริมและสนับสนุน" นั้น รวมถึงการส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาบุคลากร การสร้างนวัตกรรม และการยกระดับธุรกิจนี้ให้ทัดเทียมระดับสากล
มีข้อเสนอให้ระบุว่า "ผลกระทบ" ที่ต้องศึกษาและวิเคราะห์นั้น รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ รวมถึงระบุว่าการ "กู้ยืมเงิน" ต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของสำนักงาน และต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง โดยควรกำหนดเพดานการกู้เงิน (เช่น ไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณประจำปี) และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบทุกไตรมาส
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้เพิ่มบทบาทในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินเพื่อป้องกันการฟอกเงิน การเสนอแนะนโยบายโดยตรงต่อคณะรัฐมนตรีในกรณีฉุกเฉิน และการทำรายงานประจำปีแสดงข้อมูลผู้ใช้บริการและผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
ในด้านโครงสร้างองค์กรและบุคลากร มีข้อเสนอให้พิจารณาความเป็นอิสระของสำนักงาน เช่น เป็นองค์การมหาชน และกำหนดโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจนในกฎหมาย รวมถึงระบุคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการให้ชัดเจน เช่น ต้องมีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่
มีข้อเสนอให้เพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับ "คณะกรรมการสรรหา" ผู้อำนวยการ และการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ รวมถึงการแต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการต้องผ่านการรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการอิสระหรือสาธารณชน
ในด้านการบริหารงานและการดำเนินงาน มีข้อเสนอให้เพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน การรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการระบุคุณสมบัติของผู้ตรวจสอบภายใน
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.73% ไม่เห็นด้วย 19.27%
ในหมวดนี้ มีข้อเสนอให้กำหนดทุนจดทะเบียนให้เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ และพิจารณาสัดส่วนพื้นที่กาสิโนที่ร้อยละ 10 ว่าอาจน้อยเกินไป แต่ต้องมีมาตรการกำกับที่เข้มงวดรัดกุม
มีข้อเสนอให้กำหนดกฎเกณฑ์เรื่องการป้องกันกลุ่มทุนที่ไม่โปร่งใส กำหนดระยะเวลากระบวนการอนุญาตให้ชัดเจน เพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการ และพัฒนาระบบยื่นขออนุญาตออนไลน์
มีข้อเสนอให้เพิ่มการตรวจสอบแหล่งที่มาของทุนจดทะเบียนที่ต้องโปร่งใสและไม่เกี่ยวกับการฟอกเงินหรืออาชญากรรม รวมถึงเพิ่มประสบการณ์และความเชี่ยวชาญขั้นต่ำของผู้ประกอบการและผู้บริหาร
มีข้อเสนอให้กำหนดเงื่อนไขการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) โดยจัดสรรงบประมาณอย่างน้อยร้อยละ 1 ของกำไรสุทธิ รวมถึงมีมาตรการลดความเสี่ยงจากการพนันเกินตัว เช่น กำหนดวงเงินเดิมพันสูงสุดต่อวัน มีระบบยืนยันตัวตน และจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาผู้มีปัญหาการพนัน
มีข้อคิดเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ. มีวัตถุประสงค์ที่ผิดตั้งแต่ต้น ควรเน้นสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างเดียว ไม่ควรมีกาสิโน
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.74% ไม่เห็นด้วย 19.26%
ในหมวดนี้ มีข้อเสนอเห็นด้วยกับการจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน แต่ควรกำหนดหลักเกณฑ์ว่า ผู้อำนวยการจะสั่งห้ามบุคคลเข้ากาสิโนได้ในกรณีใดบ้าง เพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบ รวมถึงเพิ่มการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและสุขภาพจิตของผู้เข้าเล่น
ในประเด็นเกณฑ์การเข้าเล่นพนันของคนไทย ซึ่งกำหนดว่าต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน มีข้อเสนอแนะหลายแนวทาง ได้แก่
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.6% ไม่เห็นด้วย 19.4%
ในหมวดนี้ มีข้อเสนอว่า การกำหนดให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อ "สังเกตการณ์" มีความหมายที่กว้างมาก อาจเปิดช่องให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต และการกำหนดให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงระบบสารสนเทศของกาสิโนยังขาดความชัดเจนว่าเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด
มีข้อเสนอให้ระบุให้ชัดเจนว่าการยึดหรืออายัดทรัพย์สินต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดตามกฎหมายใด และการสั่งให้หยุดการให้บริการในกาสิโนต้องทำโดยมีเหตุผลอย่างไร
มีข้อเสนอให้กำหนดรูปแบบบัตรประจำตัวเจ้าพนักงานให้ชัดเจน ให้มีการแสดงบัตรก่อนการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง จัดตั้งระบบตรวจสอบข้ามพรมแดนร่วมกับประเทศคู่ค้า และให้ธุรกิจกาสิโนต้องมี "กองทุนชดเชยผู้บริโภค" หากมีกรณีฉ้อโกงหรือล้มละลาย
มีข้อเสนอให้บังคับใช้กฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัด จัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และให้การยึดทรัพย์ต้องได้รับอนุญาตจากศาลภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการใช้อำนาจเกินขอบเขต
มีข้อเสนอให้เพิ่มคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าต้องผ่านการฝึกอบรมด้านกฎหมายและจริยธรรมอย่างน้อย 100 ชั่วโมงก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ และเพิ่มอำนาจในการตรวจสอบระบบบัญชี การเงิน และระบบรักษาความปลอดภัย
ผลการรับฟังความคิดเห็น : เห็นด้วย 80.7% ไม่เห็นด้วย 19.3%
ในหมวดนี้ มีข้อเสนอให้กำหนดขอบเขตของ "การไม่แก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วน" และ "การไม่แจ้ง" ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการตีความที่กว้างและการลงโทษที่ไม่เป็นธรรม
มีข้อเสนอว่า ค่าปรับไม่สมดุลกับรายได้ที่เกิดขึ้นจริง เช่น กิจการมีเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท แต่หากเลิกกิจการโดยไม่แจ้ง มีคมีข้อเสนอว่า ค่าปรับไม่สมดุลกับรายได้ที่เกิดขึ้นจริง เช่น กิจการมีเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท แต่หากเลิกกิจการโดยไม่แจ้ง มีค่าปรับเป็นพินัยเพียง 1-10 ล้านบาท ซึ่งน้อยเกินไป
มีข้อเสนอเกี่ยวกับการคำนวณค่าปรับเป็นพินัยในรูปแบบ "อัตราร้อยละ" ของรายได้กาสิโนทั้งปี ว่าเป็นวิธีการคำนวณค่าปรับที่ค่อนข้างรุนแรงและไม่มีการกำหนดอัตราค่าปรับอย่างสูงไว้ จึงเสนอให้คงเหลือไว้เฉพาะค่าปรับเป็นพินัยในรูป