ผ่าปมร้อน "ฟอกเงิน" ผ่านกาสิโน ใต้ร่ม Entertainment Complex

21 มี.ค. 2568 | 08:49 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2568 | 09:31 น.

ผ่าข้อกังวลและวิธีรับมืออีก 1 ปมร้อน จากนโยบาย "Entertainment Complex” ที่มีกาสิโน ภายใต้ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ที่มีเสียงกังวลว่าที่นี่จะกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน

ในขณะที่รัฐบาลเดินหน้าผลักดัน "ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" หรือ "เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์" ที่เปิดทางให้กาสิโนถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของพื้นที่

 

เสียงคัดค้านและความกังวลจากหลายฝ่ายเริ่มดังขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการใช้กาสิโนเป็นแหล่งฟอกเงิน แม้ทางฝ่ายสนับสนุนจะยืนยันว่ามีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดแล้วก็ตาม

 

ผ่าปมร้อน \"ฟอกเงิน\" ผ่านกาสิโน ใต้ร่ม Entertainment Complex

 

คณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร จัดเวทีสัมมนา "Entertainment Complex : ก้าวใหม่ของเศรษฐกิจสังคมไทย" เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และภาคประชาสังคมเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น

ทุกประเทศมีปัญหาฟอกเงิน แม้แต่สิงคโปร์ก็เคยพลาด


นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ซึ่งนั่งฟังการสัมมนา ได้ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็น ด้วยความกังวลอย่างหนักถึงความเสี่ยงที่กาสิโนถูกกฎหมายจะกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน

 

"เหตุผลหลักที่การพนันเป็นที่นิยมมานาน เพราะมันสามารถเปลี่ยนเงินก้อนเล็กให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้" นายธนากรระบุ

 

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน

 

เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ยังชี้ให้เห็นว่า แม้แต่ประเทศที่มีระบบการควบคุมที่เข้มงวดอย่างสิงคโปร์ก็ยังพบปัญหา "รายงานล่าสุดเผยว่าในกาสิโน Sentosa พบความผิดปกติของเงินจำนวนหลายล้านบาท รวมถึงความไม่ชัดเจนในการนับจำนวนผู้เข้ากาสิโน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้แต่โมเดลที่ดูจะประสบความสำเร็จก็ยังมีช่องโหว่"

"ยิ่งถ้าเราทำให้การพนันถูกกฎหมาย มันยิ่งสร้างความชอบธรรมให้กับผู้ที่ต้องการฟอกเงินผ่านช่องทางนี้ เพราะพวกเขาสามารถฟอกเงินในสถานที่ที่น่าเชื่อถือ ทำให้เงินของพวกเขาดูสะอาดมากขึ้น" นายธนากรกล่าว พร้อมเตือนว่าประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศที่อนุญาตให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย ประสบความล้มเหลวในการควบคุมการฟอกเงิน


ป.ป.ง. ยืนยันร่างกฎหมายรัดกุม เข้าเล่นต้องมีเงินฝาก 50 ล้าน

 

ด้าน นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ระบุถึงร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฉบับล่าสุดว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่กฎหมายกาสิโน แต่เป็นการอนุญาตให้มีกาสิโน 10 % ในสถานบันเทิงครบวงจรทั้งหมด เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือต้องการใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แน่นอนเหรียญมีสองด้านเสมอมีทั้งดีและเสีย ก็ต้องทราบกันก่อนว่าร่างกฎหมายมีการปรับแก้มาหลายครั้ง ตั้งแต่ความเข้มงวดของการขอรับใบอนุญาต ที่ผู้ต้องการประกอบการจะต้องมีทุนพอสมควร รวมทั้งผู้ที่จะเข้าใช้บริการกาสิโนจะต้องซื้อบัตรแลกเข้า 5,000 บาท และมีเงินฝากในบัญชีฝากประจำ 50 ล้านบาทขึ้นไป

 

นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)

 

ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ง. ยังระบุว่า ป.ป.ง.จะมีส่วนสำคัญในการเข้าไปเป็นคณะกรรมการ 2 ชุดใน Entertainment Complex คือ 1.อยู่ในคณะกรรมการนโยบายที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และ2. คณะกรรมการบริหารสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อเข้าไปเสนอแนะและออกมาตรการป้องกันการฟอกเงิน และใช้กฎหมาย ป.ป.ง กำกับให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด ตั้งแต่การตรวจสอบผู้ประกอบการ การคัดกรองผู้เล่น บันทึกผู้เล่นตามที่กฎหมายกำหนด และผู้ประกอบการจะต้องรายงานธุรกิจทางการเงินมายัง ป.ป.ง.เพื่อตรวจสอบ

 

"จะไม่มีการแฝงตัว หรือเปิดบัญชีม้า เพื่อลักลอบเข้าไปใช้บริการกาสิโนได้ ดังนั้น จึงเห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความเข้มงวดจนแทบจะกระดิกไม่ได้ ประชาชนสามารถเบาใจได้ เพราะมีมาตรการกำกับ ป้องกัน และปราบปราม" นายวิทยากล่าว

 

อดีตเลขาฯ ป.ป.ง. แนะ 2 วิธีป้องกันฟอกเงินผ่านกาสิโน

 

ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ง. ได้แสดงทัศนะอีกด้านหนึ่ง โดยไม่ได้ระบุว่าสนับสนุนหรือคัดค้านการมีกาสิโนถูกกฎหมาย แต่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด เพราะการมีกาสิโนในมุมมองของตัวเองซึ่งเคยเป็นตำรวจ เห็นว่าการฟอกเงินเกิดขึ้นเยอะมาก แต่ยืนยันไม่ได้เชียร์ว่ามีหรือไม่มี แต่จะพูดตามความจริงที่เห็นในต่างประเทศ

 

พ.ต.อ.สีหนาท เล่าประสบการณ์จากการศึกษาระบบการควบคุมกาสิโนในบางประเทศ ซึ่งเมื่อปี 2560 และประสบการณ์จากการเคยตรวจสอบกรณีอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่อ้างว่าได้เงินมาจากการเล่นกาสิโนในออสเตรเลีย ตอนนั้นได้ทำงานร่วมกับ ปปช. ท่านบอกว่าไปได้เงินมาจากการเล่นกาสิโนที่ออสเตรเลีย ก็ประสานงานไปทาง ปปง. ของออสเตรเลีย เพื่อขอข้อมูลจากกาสิโนแห่งนั้น แต่ไม่ปรากฏว่าอดีตรัฐมนตรีท่านนั้นได้ไปเล่นพนันที่กาสิโนดังกล่าวจริง

 

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ง.

 

อดีตเลขาธิการ ป.ป.ง. อธิบายว่าในต่างประเทศ กาสิโนที่มีการควบคุมที่ดีจะมีระบบที่เข้มงวด คุณเข้าไปในกาสิโนต้องมีเงินสดตามจำนวนที่กำหนดและต้องแจ้งที่มา หากใครเล่นได้บ่อยๆ หรือเล่นในวงเงินสูง แต่ไม่ปรากฏว่ามีอาชีพที่ชัดเจน ก็จะถูกรายงานเป็นธุรกรรมที่น่าสงสั

 

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สีหนาท วิจารณ์ร่างกฎหมายเกี่ยวกับกาสิโนฉบับปัจจุบัน โดยเฉพาะในมาตรา 79 วงเล็บหนึ่ง ที่ระบุเพียงว่า "จัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน" โดยไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งมาตรการป้องกันการฟอกเงินมีมากมาย ในกฎหมายของ ปปง. มีกฎกระทรวงฉบับหนึ่งที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และมาตรการอื่นๆ อีกมากมาย

 

อดีตเลขาธิการ ป.ป.ง. เสนอว่าการป้องกันการฟอกเงินสามารถทำได้ 2 วิธี คือ เชื่อมโยงกับกฎหมายฟอกเงินที่มีอยู่แล้ว หรือออกเป็นกฎหมายลูกเพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการฟอกเงิน

 

"ถ้าจะมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย มาตรการป้องกันการฟอกเงินต้องมีความชัดเจนและมีรายละเอียดที่รัดกุมมากกว่าที่ปรากฏในร่างกฎหมายปัจจุบัน" พ.ต.อ.สีหนาทสรุป