ผลรับฟังเสียงแตก ปมมี 50 ล้าน เข้ากาสิโนใน Entertainment Complex

ความคืบหน้า "ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร" หรือ "พ.ร.บ. Entertainment Complex" กำลังเป็นที่จับตามองว่าจะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 หรือไม่

 

หลังจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติฯ ที่ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว (เรื่องเสร็จที่ 261/2568) เป็นที่เรียบร้อย

การรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว เปิดให้แสดงความคิดเห็นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม 2568 โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไปได้แสดงความคิดเห็น

 

ซึ่ง สศค. ได้เปิดเผยและสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562

 

จากการตรวจสอบของฐานเศรษฐกิจพบว่า หมวดที่มีการแสดงความคิดเห็นหลากหลายที่สุดคือ "หมวด 5 การควบคุมและมาตรการบังคับ" โดยมีผู้เห็นด้วย 57,558 คน (80.74%) และไม่เห็นด้วย 13,729 คน (19.26%) จากผู้แสดงความคิดเห็นทั้งสิ้น 71,287 คน

สาระสำคัญในหมวด 5

 

กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโน และกำหนดลักษณะของบุคคลที่ห้ามเข้ากาสิโน โดยมีข้อกำหนดที่เป็นประเด็นถกเถียงคือ "บุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่าห้าสิบล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่าหกเดือน" และต้องผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารกำหนด

 

ขณะที่ผลการรับฟังความคิดเห็นในส่วนของผู้ที่เห็นด้วยกับมาตรการในหมวดนี้สนับสนุนการจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน และเสนอให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการที่ผู้อำนวยการจะสั่งห้ามบุคคลเข้ากาสิโน เพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบ รวมถึงเสนอให้มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและสุขภาพจิตของผู้เข้าเล่น

 

ในขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วยมีความเห็นว่า การกำหนดเกณฑ์เงินฝากที่ 50 ล้านบาท ควรมีเหตุผลที่เหมาะสมรองรับ เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อการลงทุน หากฐานลูกค้ามีจำนวนน้อย การลงทุนในธุรกิจนี้อาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้

 

มีข้อเสนอให้ลดเกณฑ์เงินฝากจาก 50 ล้านบาทเป็น 10 ล้านบาท และอนุญาตให้ใช้หลักทรัพย์อื่นแทนได้ เช่น หุ้น ที่ดิน หรือเพิ่มทางเลือกการตรวจสอบรายได้ เช่น การยื่นแบบภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี

 

บางรายเสนอให้ลดเกณฑ์เงินฝากเป็น 5 ล้านบาท แต่เพิ่มเงื่อนไขรายได้ต่อปีไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ ยังมีความเห็นว่าข้อกำหนดเรื่องฝากเงินขั้นต่ำอาจเป็นการจำกัดสิทธิบุคคลเกินสมควร ควรพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การกำหนดวงเงินสูงสุดในการเล่นการพนัน หรือการให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการพนันที่มีความรับผิดชอบ

 

หมวด 5 การควบคุมและมาตรการบังคับ มีมาตรการอะไรอีก?

 

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า นอกจากประเด็น 50 ล้านบาทแล้ว ในหมวด 5 ยังมีมาตรการอื่นๆอีก โดยสรุปให้สั้นกระชับดังนี้

1. กำหนดให้มีการควบคุมและมาตรการบังคับแก่ผู้รับใบอนุญาต โดยให้คณะกรรมการนโยบายกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโน และกำหนดลักษณะของบุคคลที่ห้ามเข้ากาสิโน โดยบุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่าห้าสิบล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่าหกเดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
2. ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประกอบกิจการกาสิโนและเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของกาสิโนต้องควบคุมไม่ให้ผู้จะเข้าไปหรืออยู่ในกาสิโนนำอาวุธเข้าไปในกาสิโน มีการเล่นพนันโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการเล่น และรายละเอียดการเล่นพนันในกาสิโน กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กระทำความผิดในลักษณะเพื่อการค้าประเวณี หรือมีอาการมึนเมาจนประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ หรือกระทำการอันเป็นการขัดขวางการประกอบธุรกิจหรือก่อให้เกิดความไม่สงบ
3. กำหนดให้เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่และอำนาจรักษาความปลอดภัยในชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน รวมทั้งระงับเหตุและรักษาความสงบเรียบร้อยภายในกาสิโน และแจ้งเหตุนั้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ และพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจท้องที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ทราบโดยทันที รวมทั้งปิดกั้นและรักษาสถานที่เกิดเหตุให้คงสภาพเดิมไว้จนกว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจผู้มีอำนาจหน้าที่จะเดินทางมาถึงสถานที่เกิดเหตุ
4. กำหนดห้ามบุคคลจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือถ่ายทอดการเล่นพนัน เพื่อให้บุคคลภายนอกกาสิโนเล่นพนันได้ รวมทั้งห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใด เชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือดำเนินการอื่นที่มีลักษณะในทำนองเดียวกัน เกี่ยวกับกาสิโน เว้นแต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด และยังห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น เพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันกาสิโน

 

ทั้งนี้ สศค. ได้ชี้แจงในเอกสารผลการรับฟังความคิดเห็นเอาไว้ว่า "จะนำความคิดเห็นทั้งหมดไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ ต่อไป"