(วันนี้ 2 เม.ย. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ entertainment complex ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ ในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.)
โดยมองว่า เป็นการบรรจุวาระที่ผิดปกติ โดยอาศัยอำนาจประธานสภาผู้แทนราษฎร สอดรับรัฐบาล ก็ได้มีการออกมาแถลงข่าวว่า จะเร่งรัดการพิจารณาให้เสร็จสิ้นก่อนปิดสมัยประชุม จึงสามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า เหตุใดรัฐบาลจึงมีความเร่งรีบเช่นนี้
ทั้งที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ออกมายอมรับว่า การศึกษาผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการยังไม่เสร็จสิ้น และประชาชนเอง ก็ยังกังวลว่า ควรจะต้องมีการเปิดรับฟังความเห็นเสียงอย่างรอบด้าน
ซึ่งตนเองก็มองว่า กระบวนการออกเสียงประชามติ ก็เป็นหนึ่งในกระบวนการที่เปิดกว้าง และเป็นธรรม
ส่วนท่าทีของฝ่ายค้านจะดำเนินการจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ ย้ำว่า ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจ หรือนโยบายภาครัฐในการเกื้อกลุ่มทุน หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และสามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า ข้ออ้างการแก้ปัญหาการพนันในประเทศโดยการนำธุรกิจสีเทา มาถูกโอบอุ้มโดยร่างกฎหมายฉบับนี้ อาจเป็นวิธีการที่ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างตรงจุด และรัฐบาล กำลังจะใช้นโยบายของรัฐ ในการเอื้อประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่
ส่วนจะถึงขึ้นที่ฝ่ายค้านจะวอล์กเอ้าท์ออกจากการประชุม หรือจะขอนับองค์ประชุมเพื่อยับยั้งการพิจารณาร่างกฎหมายนี้หรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ ชี้แจงว่า กระบวนการในสภาอาจจะต้องรอพิจารณาที่หน้างาน เพราะในขณะนี้ ยังมีการเจรจาระหว่างวิปอยู่เรื่อย ๆ ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ฝ่ายค้าน ไม่อยากเห็นกระบวนการที่เร่งรัดผิดปกติในสภา และอยากให้มีการพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา
ส่วนที่ในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) จะมีมวลชนมากดดันที่หน้ารัฐสภา จะลุกลามบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งครั้งใหม่หรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ เห็นว่า รัฐบาล ควรจะต้องรับฟังเสียงของประชาชนอย่างรอบด้าน แต่ตนเองก็อยากให้มีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสภามากกว่า
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังกล่าวถึงเงื่อนตามร่างกฎหมายฯ ที่กำหนดคนไทยที่จะเข้าใช้บริการกาสิโนจะต้องมีบัญชีเงินฝากประจำ 50 ล้านบาทว่า เงื่อนไขต่าง ๆ ขณะนี้ ฝ่ายค้านกำลังศึกษาอยู่ พร้อมย้ำว่า ไม่ควรชี้นำ หรือพุ่งเป้าไปยังผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้รับสัมปทาน หรือผู้ที่จะเข้าใช้บริการ ดังนั้น ก็จะต้องศึกษาอย่างรอบด้าน