นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นำคณะประกอบด้วยนายณฐกร สุวรรณธาดา ว่าที่ร้อยตรีธนิตศักดิ์ ดารามั่น นางสาวณัฐิดา เตาเฟ็ส และนายสุรชาติ มาลาศรี ผอ.สำนักบริหารโครงการ นายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11นายยงยส เนียมทรัพย์ รองผอ.ชป.ที่11นายธีรภัทร สามไพบูลย์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต นายสมเดช ศรีวิเชียร
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตรลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตรและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิตสำนักงานชลประทานที่11ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดฉะเชิงเทราโดยได้ตรวจตราการทำงานของสถานีสูบน้ำหนองจอกซึ่งมีเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าจำนวน 20 เครื่อง
แต่ละเครื่องสามารถสูบน้ำได้ 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีกำลังเดินเครื่องสูบน้ำจากคลองแสนแสบลงคลองบางขนากและคลองนครเนื่องเขตสู่แม่น้ำบางปะกงระยะทาง28กิโลเมตรเช่นเดียวกับสถานีสูบน้ำประเวศน์บุรีรมย์ที่กำลังสูบน้ำในคลองประเวศน์บุรีรมย์ไปลงแม่น้ำบางปะกงทางตะวันออกและไปลงคลองพระองค์ไชยานุชิตสู่อ่าวไทยอีกทางหนึ่งโดยต้องบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในระดับไม่ล้นตลิ่งเนื่องจากมีชุมชนบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรอยู่ตลอดแนวคลอง
ทั้งนี้ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.ได้ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยและได้ย้ำถึงนโยบายที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรโดยเฉพาะกรมชลประทานช่วยเหลือกรุงเทพมหานครให้เต็มที่กำลังความสามารถพร้อมกับกำชับให้ดูแลช่วยเหลือประชาชน 2 ฝั่งคลองรวมทั้งเรือกสวนไร่นาบ่อปลาบ่อกุ้งและฟาร์มปศุสัตว์ในพื้นที่กรุงเทพ สมุทรปราการและฉะเชิงเทราให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากน้ำท่วมในครั้งนี้