“….ถูกขัดขา เพราะเขากลัวพรรคดังเกินไป เขาจึงดึงเอาไว้…”
อนุทิน ชาญวีรกุล
“ด้วยรักและห่วงใย…ไม่ได้กลัวดัง แต่กลัวดับครับพี่หนู…” นาย อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการอ่านดูยูทูปอ่านสื่อออนไลน์แต่เช้ามืดเกี่ยวกับข่าวที่พี่หนูพูดที่ขอนแก่นเมื่อวันวานก็รู้สึกห่วงใยและขอให้หลักคิดมุมมองใหม่ในฐานะพี่คนหนึ่งที่หวังดีว่า พี่หนูกำลังคิดผิด 2 ผิด ผิดแรก คือ เข้าใจผิดเพื่อนๆที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
“….ถูกขัดขา เพราะเขากลัวพรรคดังเกินไป เขาจึงดึงเอาไว้…” ..อนุทิน ชาญวีรกุล พี่หนูในฐานะหัวหน้าพรรคภท.ทราบดีว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีจุดยืนตรงกันคือ สนับสนุนกัญชาเสรีทางการแพทย์เพื่อสุขภาพเพราะเป็นสมุนไพรยาไทย (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็สนับสนุนแนวทางนี้) แต่เมื่อพี่หนูเร่งเปิดเสรีกัญชามาพักใหญ่โดยยังไม่มีพระราชบัญญัติมารองรับก็เกิดลางร้ายผลลบมีการเสพสูบและใช้กัญชากันเสรีแบบควบคุมไม่ได้เพราะปลูกได้ซื้อง่ายขายคล่อง"
ไร้มาตรการกำกับดูแลที่ดีพอจนลามลึกไปถึงนักเรียนนักศึกษาเด็กเยาวชนชายหญิงลูกหลานของเราจึงเกิดกระแสตีกลับไม่เอากัญชาเสรีจนเกิดปรากฏการณ์โรงเรียนขึ้นป้าย”เขตปลอดกัญชา”และคุณหมอนับพันออกมาคัดค้านซึ่งกระทบต่อนโยบายกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์และสุขภาพของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆที่เกรงว่านโยบายดีๆจะพังเพราะปัญหาการบริหารจัดการจนท้ายที่สุดมีการยับยั้งร่างกฎหมายในสภาฯ.ให้ไปทบทวนใหม่ให้รอบคอบรัดกุม
“พี่หนูจึงไม่ควรมองว่าเป็นการขัดขา โดยคิดว่า พรรคร่วมรัฐบาลกลัวภท.จะดัง แต่ควรรับฟังเหตุผลข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งว่าที่เกิดเหตุการณ์ทั้งในและนอกสภาฯด้วยเหตุว่า เขากลัวอนาคตของชาติจะดับเพราะเสพสูบกัญชาติดยางอมแงมทั้งประเทศ ไม่ได้กลัวดังแต่กลัวดับ”
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า อุปมาอุปมัยง่ายๆคือ เพื่อนๆพี่ๆเห็นพี่หนูกำลังจะเดินตกหน้าผาสูงจึงช่วยกันยึดตัวไว้ หากปล่อยให้เดินต่อไปจะพาประชาชนเยาวชนลูกหลานตกหน้าผาตายไปด้วย จากหวังดีกลับถูกมองเป็นหวังร้าย นี่คือคิดผิดมองผิดพูดผิด ข้อแรก
“คนเป็นผู้นำอย่างพี่หนูควรเปิดกว้างฟังความรอบด้านมีหลักคิดหลักยึดที่ดีและยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งก็จะเข้าใจสิ่งที่พี่ให้ข้อคิด ขอโทษที่วันนี้เขียนเสร็จเพียง”ผิดแรก” รอวันพรุ่งนี้หรือวันถัดไปจะเขียน”ผิดสอง”มาให้อ่าน