Play
ธพว.บริหาร2หมื่นล้าน ปล่อยกู้18กลุ่มจังหวัด
เอสเอ็มอีแบงก์เผยรับหน้าที่บริหารเงินกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีในแนวทางประชารัฐวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท แบ่ง 1.8 หมื่นล้านบาทปล่อยกู้ให้เศรษฐกิจท้องถิ่น 18 กลุ่มจังหวัด
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ธพว.ได้รับมอบหมายให้บริหารเงิน หรือสัญญาให้กับกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีในแนวทางประชารัฐวงเงิน 2หมื่นล้านบาท ให้กับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยคิดอัตราดอกเบี้ย1% ผ่อนชำระ7 ปี และไม่ต้องชำระเงินต้น3 ปี มีวงเงินสูงสุดต่อรายที่ 40 ล้านบาท สำหรับเงินกองทุนดังกล่าวจะถูกนำไปปล่อยกู้ให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local economy) ใน 18 กลุ่มจังหวัด
เงินกองทุนฯจำนวน 2 หมื่นล้านบาทจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ1.วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาทจะนำไปใช้ใน18 กลุ่มจังหวัดแต่ละกลุ่มจังหวัดจะได้วงเงินงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เริ่มมีการปล่อยกู้ภายในปี 2560 โดยมีคณะกรรมการในแนวทางประชารัฐ
ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นผู้คัดเลือกกิจการ หรือบริษัทเข้ามา หลังจากนั้น ธพว. จะมีหน้าที่ในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการเงินว่ามีความเหมาะสมมากน้อยพียงใด โดยคาดว่าต่อ 1 จังหวัดจะได้งบประมาณที่ 200-300 ล้านบาท หรือประมาณ 10-20 กิจการต่อจังหวัด
อีก 2 ,000 ล้านบาทจะถูกนำมาใช้เพื่อการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ รวมถึงให้คำปรึกษา โดยจะเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เฉพาะทางด้านเงินเพียงอย่างเดียว เนื่องจากรัฐบาลมีความต้องการให้ผู้ประกอบการได้ยกระดับกิจการขึ้นมา หรือเปลี่ยนแปลง (Tranfrom) จากเอสเอ็มอีธรรมดาไปสู่เอสเอ็มอี 4.0 จึงต้องมีวงเงินเข้ามาสนับสนุน โดยส่วนหนึ่งจะได้ใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือกระบวนการทำงาน
เงินจากกองทุนดังกล่าวคาดว่าน่าจะสามารถนำมาใช้ได้ภายใน 2 เดือน โดยคาดว่าภายในปีงบประมาณ 2560จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้หมดทั้งจำนวน อีกทั้งเงินดังกล่าวยังเป็นงบประมาณกลางปีจึงต้องเบิกจ่าย หรือกำหนดข้อผูกพันในปี 2560ให้หมดภายในวันที่ 30 กันยายน นี้ เมื่อกองทุนดังกล่าวใช้เงินงบประมาณจนหมดก็จะมีการดำเนินการแปรสภาพเป็นนิติบุคคล โดยออกเป็น พ.ร.บ. กองทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับให้เป็นการถาวร ซึ่งเมื่อเอสเอ็มอีผู้ที่ได้รับสินเชื่อไปมาชำระหนี้ก็จะสามารถนำเงินมาปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นได้ต่อไป โดยจะมีการของบประมาณระหว่างปีเข้ามาเพิ่มเติม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,238 วันที่ 23 - 25 กุมภาพันธ์ 2560
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ธพว.ได้รับมอบหมายให้บริหารเงิน หรือสัญญาให้กับกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีในแนวทางประชารัฐวงเงิน 2หมื่นล้านบาท ให้กับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยคิดอัตราดอกเบี้ย1% ผ่อนชำระ7 ปี และไม่ต้องชำระเงินต้น3 ปี มีวงเงินสูงสุดต่อรายที่ 40 ล้านบาท สำหรับเงินกองทุนดังกล่าวจะถูกนำไปปล่อยกู้ให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local economy) ใน 18 กลุ่มจังหวัด
เงินกองทุนฯจำนวน 2 หมื่นล้านบาทจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ1.วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาทจะนำไปใช้ใน18 กลุ่มจังหวัดแต่ละกลุ่มจังหวัดจะได้วงเงินงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เริ่มมีการปล่อยกู้ภายในปี 2560 โดยมีคณะกรรมการในแนวทางประชารัฐ
ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นผู้คัดเลือกกิจการ หรือบริษัทเข้ามา หลังจากนั้น ธพว. จะมีหน้าที่ในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการเงินว่ามีความเหมาะสมมากน้อยพียงใด โดยคาดว่าต่อ 1 จังหวัดจะได้งบประมาณที่ 200-300 ล้านบาท หรือประมาณ 10-20 กิจการต่อจังหวัด
อีก 2 ,000 ล้านบาทจะถูกนำมาใช้เพื่อการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ รวมถึงให้คำปรึกษา โดยจะเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เฉพาะทางด้านเงินเพียงอย่างเดียว เนื่องจากรัฐบาลมีความต้องการให้ผู้ประกอบการได้ยกระดับกิจการขึ้นมา หรือเปลี่ยนแปลง (Tranfrom) จากเอสเอ็มอีธรรมดาไปสู่เอสเอ็มอี 4.0 จึงต้องมีวงเงินเข้ามาสนับสนุน โดยส่วนหนึ่งจะได้ใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือกระบวนการทำงาน
เงินจากกองทุนดังกล่าวคาดว่าน่าจะสามารถนำมาใช้ได้ภายใน 2 เดือน โดยคาดว่าภายในปีงบประมาณ 2560จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้หมดทั้งจำนวน อีกทั้งเงินดังกล่าวยังเป็นงบประมาณกลางปีจึงต้องเบิกจ่าย หรือกำหนดข้อผูกพันในปี 2560ให้หมดภายในวันที่ 30 กันยายน นี้ เมื่อกองทุนดังกล่าวใช้เงินงบประมาณจนหมดก็จะมีการดำเนินการแปรสภาพเป็นนิติบุคคล โดยออกเป็น พ.ร.บ. กองทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับให้เป็นการถาวร ซึ่งเมื่อเอสเอ็มอีผู้ที่ได้รับสินเชื่อไปมาชำระหนี้ก็จะสามารถนำเงินมาปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นได้ต่อไป โดยจะมีการของบประมาณระหว่างปีเข้ามาเพิ่มเติม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,238 วันที่ 23 - 25 กุมภาพันธ์ 2560