ทุนจีนแห่ซื้อที่ดินโรจนะ เทงบผลิตแผงโซลาร์-แคนาดาเอาด้วย
นักลงทุนจีนแห่เข้าลงทุนไทย โรจนะคุยขายได้แปลงใหญ่ๆเกิน 100 ไร่ สร้างโรงงานผลิตแผงโซลาร์ส่วนทุนญี่ปุ่นคาดจะกลับมาเร็วๆนี้ นักวิเคราะห์คาดกำไรปีนี้ทะยาน
นางสาวอมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA เปิดเผยว่า นักลงทุนจีน ยังคงแสดงความสนใจเข้ามาซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะแผงโซลาร์ สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งในประเทศไทยมีการลงทุนตั้งโรงงานโซลาร์ฟาร์มจำนวนมาก นอกจากนั้นแคนนาดาโซลาร์ ก้ได้เข้ามาซื้อที่ดินด้วยเช่นกัน โรงงานสร้างเสร็จแล้ว
ขณะเดียวกันนักลงทุนญี่ปุ่นที่เคยเข้ามาลงทุนจำนวนมาก แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หันไปลงทุนในอเมริกาใต้ ค่อนข้างมาก แต่เมื่อนโยบายของสหรัฐอเมริกาไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ คาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะหันกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
“เราไม่ได้ตั้งเป้าในการเติบโตปีละเยอะๆ แต่นักลงทุนจีน ที่เข้ามาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็จะซื้อที่ดินแปลงใหญ่มากขึ้น ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป “นางสาวอมรากล่าว
ส่วนกรณีที่บริษัทมีผลการดำเนินงานลดลงมากในปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ เพียง 116 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 697 ล้านบาท นั้นนางสาวอมรากล่าวว่า งบการเงินรวมของบริษัทมีการรับรู้งบการเงินของบริษัทไทคอนด้วยตามสัดส่วนการถือหุ้น และมีผลตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ในปีก่อน ส่วนในปี 2560 ไม่มีผลกระทบในเรื่องวิธีทางบัญชีแล้ว
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ยังคงแนะนำ”ซื้อ”หุ้น ROJNA โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมที่ 7.20 บาท คาดไตรมาส 1/2560 ผลการดำเนินงานเติบโต 39% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าจากไตรมาส4/2559 เนื่องมาจากยอดโอนที่ดินและการขายไฟที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นตัวทำรายได้ และกำไรก่อนภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อม(อิบทดา)หลักผลประกอบการจะเพิ่มขึ้นสูงในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป เนื่องมาจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า SPP 3 แห่งในเดือน กรกฎาคม และมีนิคม 2 แห่งรองรับการเปิด EEC ที่บ่อวินและแหลมฉบัง
“ผลประกอบการที่สูง และเป็นปัจจัยหนุนฐานะทางการเงินของ ROJNA สัดส่วนหนี้สิต่อทุนหรือD/E จะลดลงเป็น 0.7 เท่า จากเดิม 2.1 เท่าเรามองว่าหุ้นยังมีราคาที่ไม่แพง คือต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี, พีอีที่ต่ำ และเงินปันผลสูง”บล.ทิสโก้ระบุ
สำหรับผลประกอบการลดลงในปีที่ผ่านมา คาดว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นในปีนี้ ประเด็นสำคัญที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นในปีหน้าคือการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า SPP 3 ที่จะมีการขายไฟให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเพิ่มขึ้นอีก 90 เมกะวัตต์ และการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าในนิคมเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10 เมกะวัตต์ คาดยอดขายที่ดินต่อปีที่ 500 ไร่ และอัตรากำไรขั้นต้น 23-24%
ด้านการลงทุนในประเทศ บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN) เปิดเผยว่า บริษัทเข้าซื้อโรงงานสกัดน้ามันปาล์มและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ของ บริษัท โชควัลลภา น้ามันปาล์ม จำกัด (CVP) ตั้งอยู่ที่ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา และ UVAN จะเริ่มเข้าบริหารโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแห่งนี้ในวันที่ซื้อคือ 2 พฤษภาคม 2560
สำหรับ โรงงานสกัดน้ามันปาล์มนี้เป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของบริษัทในภาคใต้ของประเทศไทย และจะทำให้กำลังผลิตรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 150 ตันปาล์มสด เป็น 210 ตันปาล์มสดต่อชั่วโมง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,258 วันที่ 4 - 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560