KTBST เดินหน้ารุกนวัตกรรมการลงทุนอัตโนมัติ ‘Algorithmic Trading’เปิดตัว 2 กลยุทธ์ลงทุนใหม่จาก Smart Algoได้แก่ "Tide Hunter" และ "Sector Rotation" เน้นสร้างผลตอบแทนและบริหารความสี่ยง รับการวางแผนการเงินยุคใหม่ ช่วยพัฒนาตลาดทุนไทย
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST เปิดเผยว่า ประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ด้วยเทคโนโลยีด้านการเงิน การลงทุนที่พัฒนาอย่างรวดเร็วจากการสนับสนุนของภาครัฐ ให้สามารถเข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้นจึงเกิดนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ KTBST ที่พัฒนาวัตกรรมการลงทุนในตลาดหุ้นให้กับนักลงทุนได้เข้ามาใช้บริการ นั่นคือ ระบบการลงทุนอัตโนมัติที่ชื่อว่า KTBST Smart Algo ที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องด้วยการมีกลยุทธ์ลงทุนที่โดดเด่นทั้ง 4 กลยุทธ์ก่อนหน้านี้ส่งผลให้ในช่วงระยะเวลากว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ KTBST Smart Algoเติบโตขึ้นมากจนปัจจุบันมีขนาดสินทรัพย์ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท
ดังนั้น เพื่อตอบรับความต้องการจากนักลงทุน KTBST Smart Algo จึงออกกลยุทธ์การลงทุนใหม่อีก 2 กลยุทธ์ด้วยกัน นั่นคือ "กลยุทธ์ SECTOR ROTATION" และ "กลยุทธ์ TIDE HUNTER"ถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ KTBSTพัฒนาร่วมกันกับFintech ประเทศไทย เพื่อต้องการให้นักลงทุนได้มีเครื่องมือในการวางแผนการเงินและการลงทุนที่หลากหลาย
นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่ากลยุทธ์ Sector Rotationนั้นเป็นการลงทนในหุ้นแบบกระจายตัวไปตามกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) ทั้งใน SET และ MAI มีการคำนวณน้ำหนักเพื่อเข้าลงทุนในแต่ละกลุ่มตามแนวโน้มราคา (Momentum) ความผันผวน (Volatility) และ ค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) โดยกลยุทธ์จะเลือกลงทุนในกลุ่มที่มีแนวโน้มราคาแข็งแกร่งกว่าตลาด มีความผันผวนของราคาต่ำ รวมถึงมีค่าสหสัมพันธ์ต่ำ ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของพอร์ตลดลง
กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบการกระจายความเสี่ยงและไม่ต้องการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ซบเซา เพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว
สำหรับกลยุทธ์ Tide Hunter เป็นการลงทุนที่ใช้เครื่องมือทางเทคนิคหลายชนิดเพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำกำไร โดยกลยุทธ์จะคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มของราคา (Momentum) ที่แข็งแกร่งกว่าหุ้นตัวอื่น 10 อันดับแรกโดยเปรียบเทียบ จากทั้งตลาด SET และ MAI และหากหุ้นที่เลือกมามีอันดับแนวโน้มราคาลดลง หรือราคาเริ่มปรับตัวเป็นขาลง กลยุทธ์ Tide Hunterจะทำการขายหุ้นนั้น และทำการซื้อหุ้นที่มีอันดับแนวโน้มราคาที่ดีกว่าเข้ามาแทน
"กลยุทธ์ Tide Hunter จากการทดสอบ (Back Test) ตลาดหุ้นในปี 2014-ปัจจุบัน ผลตอบแทนที่ได้รับถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ตัวกลยุทธ์ยังมีการบริหารความเสี่ยงผ่านการกระจายลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว ทำให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนในภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูงดังเช่นในปัจจุบัน โดยกลยุทธ์ Tide Hunter จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบการลงทุนในหุ้นเป็นรายตัวและสามารถลงทุนในระยะยาวประมาณ 1-3 ปี และรับความเสี่ยงได้ในภาวะที่ตลาดแกว่งตัวลง" นายชาตรีกล่าว
ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ใหม่ๆของ Smart Algoที่ออกมาต่อเนื่องเป็นการสะท้อนว่า KTBST Wealth Management ให้ความสนใจกับการลงทุนในยุคใหม่อย่างมาก เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนของประเทศไทยจึงเชื่อว่านักลงทุนจะเข้ามาใช้บริการ KTSBT Smart Algo เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเมื่อพิจารณาถึงตลาดหุ้นในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว มีหุ้นจำนวนมากที่ตลาดหลักทรัพย์การที่จะเลือกหุ้นที่ดีด้วยตนเองนั้นอาจทำได้ไม่ครอบคลุมทั้งหมด
ขณะเดียวกันการจะวิเคราะห์เพื่อหาจังหวะในการซื้อ-ขาย ก็อาจทำได้ไม่ครอบครบในหุ้นทุกตัวและในทุกเวลานาที ดังนั้นระบบการซื้อ-ขายหุ้นอัตโนมัติอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์เลือกหุ้น การจับจังหวะเข้าซื้อและขาย รวมถึงการรายงานสรุปการซื้อขายในแต่ละวัน จึงเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจมาก ซึ่ง KTSBT Smart Algoจึงเป็นเครื่องมือการลงทุนในยุค 4.0 อย่างแท้จริง
ปัจจุบัน KTBST Wealth Management มีผลิตภัณฑ์ Smart Algoที่เปิดให้นักลงทุนทั่วไปใช้เข้ามาใช้บริการ ได้แก่ 1.กลยุทธ์ HIT N'Run 2.กลยุทธ์ Stock on Fire 3.กลยุทธ์ Bright Infinite 4.กลยุทธ์ Growth Hunter 5.กลยุทธ์ Tide Hunter และ 6.กลยุทธ์ Sector Rotation