AMANAHพลิกขาดทุน52ล้าน เหตุตั้งสำรองหนี้90ล้าน
"อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง" ไตรมาส 2 ขาดทุนสุทธิ 52 ล้านบาท จากงวดปีก่อนกำไรสุทธิ 2.88 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีขาดทุน 35 ล้านบาท เหตุตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 90 ล้านบาท จากลูกค่าเช่าซื้อ ลูกหนี้ SME และสำรองตามเกณฑ์
บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 52.24 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.055 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.003 บาท ส่วนงวด 6 เดือนปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 35.00 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.037 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5.78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.006 บาท
บริษัทฯ ชี้แจงสาเหตุที่ขาดทุนในไตรมาส 2 เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 90.02 ล้านบาท ซึ่งการตั้งสำรองหนี้ดังกล่าวประกอบด้วย สำรองลูกค้าเช่าซื้อปกติ สำรองตามเกณฑ์คุณภาพและส่วนหนึ่งสำรองลูกหนี้ SME ประเภทสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าเพิ่มเติมเผื่อไว้สำหรับลุกหนี้สินเชื่อที่่ฝ่ายบริหารประเมินว่าอาจเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 41.88% จาก 84.35 ล้านบาทในไตรมาส 2 ของปี 2559 เพิ่มเป็น 119.67 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2560 เป็นผลจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วและอัตราผลตอบแทนของพอร์ตที่สูงขึ้นเป็นหลัก โดยผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตโดยรวมอยู่ที่ 16.3% จากงวดปีก่อนอยู่ที่ 13.1% นอกจากนี้รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น รายได้จากสัญญาเช่าซื้อมีจำนวน 95.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.45%
ส่วนรายการที่มีรายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ รายได้อื่นซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่มีคำพิพากษาที่ลดลง 44.63% จาก 7.98 ล้านบาท เหลือ 4.42 ล้านบาท ค่าใช่จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 104.14% จาก 82.72 ล้านบาท เป็น 168.86 ล้านบาท มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อหนี้สูยและหนี้สงสัยจะสูญ เป็นต้น