APCO ลุยเพิ่มช่องทางจำหน่าย บอร์ดไฟเขียวจัดตั้ง Balancing Immunity Center 5 สาขา เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวและรองรับลูกค้าจากทุกช่องทาง ทยอยเปิดให้บริการม.ค.61 มั่นใจหนุนรายได้เติบโตระยะยาว ช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ก้าวสู่ตลาดโลก ขณะที่ Q4/60 แนวโน้มดี ตลาดเข้าไฮซีซั่น ช็อปช่วยชาติหนุน
ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จัดตั้งโครงการ Balancing Immunity Center (BIC) ศูนย์บริการดูแลสุขภาพของนักท่องเที่ยวด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันที่สมดุลจากงานวิจัยของ APCO โดยมีสารสำคัญจากมังคุดเป็นส่วนประกอบหลัก
โดยเบื้องต้นจะเปิดศูนย์ BIC จำนวน 5 สาขา ประกอบด้วย กรุงเทพฯ 2 สาขา ภูเก็ต 1 สาขา ชลบุรี 1 สาขา และเชียงใหม่ 1 สาขา แต่ละศูนย์จะมีบุคลากรประจำศูนย์และนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ให้ความรู้ในการใช้ภูมิคุ้มกันวิทยาในการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งแนะนำผลิตภัณฑ์สำหรับแก้ไขปัญหา ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนม.ค.61
“การเปิด BIC นอกจากจะเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าของ APCO จากช่องทางการประชาสัมพันธ์และช่องทางการขายอื่นๆ ที่ต้องการปรึกษาและรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้าไปใช้บริการได้ นอกจากนี้หากลูกค้ามีการแนะนำผลิตภัณฑ์ต่อ ก็สามารถทำรายได้ต่อเนื่องในช่องทาง Dropship ได้อีกด้วย ทั้งนี้เชื่อว่ารายได้จาก BIC ในระยะยาวจะส่งเสินมการเติบโตของยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นช่องทางที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเผยแพร่ไปได้กว้างขึ้นในตลาดโลก”ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
ขณะที่ทิศทางการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4 ปี 60 มีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงาม และรายได้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากการที่บริษัทปรับการตลาดเพื่อรองรับโครงการช็อปช่วยชาติ ประกอบกับการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และการยกระดับงานวิจิย ซึ่งการดำเนินงานในด้านต่างๆ จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานในปี 2561
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 112.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.26 ล้านบาทจากไตรมาส 2 คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 8% แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 113.31 ล้านบาท จำนวน 1.15 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลง 1% และมีกำไรสุทธิ 32.93 ล้านบาท ผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 311.83 ล้านบาท ลดลง 9.32 ล้านบาท คิดเป็น 2.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมที่ 321.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 86.63 ล้านบาท