เมืองไทยลิสซิ่ง ปิดงบปี 60 กำไรสุทธิ 2,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.83% เทียบกับปีก่อน บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.18 บาท/หุ้น ลั่นปี 61 สินเชื่อ-รายได้-กำไร โต 40% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ล็อคเป้าหนี้เน่าไม่เกิน 1.5% ผุดสาขาทั่วไทย 2,800 แห่ง
[caption id="attachment_261322" align="aligncenter" width="335"]
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ[/caption]
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทยลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS ผู้บริการสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์ และนาโนไฟแนนซ์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2560 มีรายได้รวม 7,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,999 ล้านบาท หรือ 67.06% เทียบปี 2559 มีรายได้รวม 4,472 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,037 ล้านบาท หรือ 70.83% เทียบปี 2559 มีกำไรสุทธิ 1,464 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯยังมีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2560 ในอัตรา 0.18 บาท/หุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 30 เมษายน 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561
“พอร์ตสินเชื่อ รายได้ และกำไร ของ MTLS เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2557 สะท้อนให้เห็นถึงแผนและยุทธศาสตร์ขยายตัวทั่วไทยของบริษัทฯ เดินมาถูกทาง สามารถตอบโจทย์ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยในปี 2560 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 58,040 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ มียอดปล่อยสินเชื่อกว่า 1,709 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อันดับหนึ่งของตลาดเช่นเดียวกับสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์” นายชูชาติกล่าว
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งเนื่องจากกระบวนการพิจารณาสินเชื่อรวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดในระบบ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญ โดยแผนการดำเนินงานในปี 2561 ตั้งเป้าสินเชื่อ รายได้ เติบโต 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายสินเชื่อใหม่ เติบโต 40% และเตรียมขยายสาขาใหม่เพิ่มเป็น 2,800 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ โดยสาขาใหม่ที่เตรียมเปิดในปีนี้ เน้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เนื่องจากตลาดยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้และกำไร ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และตั้งเป้าคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไว้ที่ระดับ 1.50% ของพอร์ตสินเชื่อรวม