คลังขยายเพดานนิติบุคคล ที่มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ปล่อยกู้ได้วงเงินสูงสุด 1 แสนบาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 36% ในส่วน 50,000 บาทแรก ส่วนที่เหลือคิดไม่เกิน 28%
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงินในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) สศค.ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ(สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์)เ พื่อรองรับความต้องการทางการเงินของประชาชน โดยได้ปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 9 เมษายน มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2562
ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เก็บ “อัตรากำไรจากการให้สินเชื่อ” เพื่อให้รองรับกลุ่มลูกค้าชาวมุสลิมที่ต้องการใช้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ได้ตามหลักศาสนาอิสลาม และผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องการให้กู้ยืมเงินแก่ลูกค้าในวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ส่วนผู้ประกอบธุรกิจที่ประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่ลูกค้าในวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย(พิโกพลัส) ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
สำหรับอัตราดอกเบี้ย อัตรากำไรจากการให้สินเชื่อ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม (Effective Rate) เรียกเก็บรวมกันได้ไม่เกิน 36% กรณีวงเงินสินเชื่อส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาทแรก ส่วนที่เกินกว่า 50,000 บาท เรียกเก็บรวมกันได้ไม่เกิน 28% ต่อปี
สำหรับวิธีการยื่นคำขออนุญาต ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์อยู่เดิม สามารถประกอบธุรกิจให้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ในวงเงิน 50,000 บาทต่อราย ต่อไปได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประกอบธุรกิจที่กำหนดตามประกาศฉบับใหม่ และหากต้องการที่จะให้กู้ยืมเงินประเภทพิโกพลัส ต้องยื่นคำขออนุญาตใหม่ผ่านสศค.พร้อมส่งหลักฐานการเพิ่มทุนจดทะเบียน ซึ่งชำระแล้วหรือเงินลงหุ้นให้มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท