รับมือสงครามการค้ายืดเยื้อ KTAM แนะลงทุนทองคำ
คอลัมน์รายงาน
สหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของจีนจาก 10% เป็น 25% เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมาส่งผลให้จีนตอบโต้ โดยการพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จำนวนกว่า 5,000 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเวลานี้ การสะสมทองคำ ควรมีไว้บ้างในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่มีนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ชวินดา หาญรัตนกูล
บริษัทจึงขอเสนอกองทุนเปิดเคแทม โกลด์ ฟันด์ (KT-Gold) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust เน้นลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ
ส่วนอีกกองทุนที่น่าสนใจเกี่ยวข้องกับทองคำเช่นกัน คือกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพรเชียส เอคควิตี้ (KT-Precious) ลงทุนในกองทุน Franklin Gold and Precious Metals Fund เน้นลงทุนในหมวดอุตสาห-กรรมที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ และโลหะมีค่า เช่น แพลทินัม พาลาเดียม และเงิน เป็นหลัก
อีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ แม้เผชิญแรงกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว โดยสิ้นวันที่ 13 พฤษภาคม ผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 3 เดือน อยู่ที่ 2.41% สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ 2.40% ทั้งนี้ คาดว่า เฟดน่าจะส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลายออกมาเพื่อประคองตลาด จึงคาดว่า หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์น่าจะปรับตัวขึ้นได้
หากนักลงทุนที่สนใจ สามารถลงทุนผ่านกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟันด์ (KT-Finance) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Fidelity Funds-Global Financial Services Fund เน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการให้บริการทางด้านการเงิน มีนโยบายที่จะสร้างผลตอบแทนระยะยาว จากการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการเงินแก่ผู้บริโภค และภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก
นอกจากนี้ นักลงทุนบางคนอาจจะกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าว่า จะยืดเยื้อใช้เวลาอีกนาน กว่าจะตกลงกันได้ การลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนก็มีความน่าสนใจ เพราะหลายประเทศในกลุ่มนี้ เป็นเป้าหมายการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ซึ่งประเด็นนี้น่าจะช่วยชดเชยปัจจัยลบจากบรรยากาศสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และน่าจะทำให้หุ้นอาเซียน ทนต่อปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้า เหนือกว่าหุ้นในตลาดอื่นๆ
หากนักลงทุนที่สนใจจะมีกองทุนดังกล่าวไว้ในพอร์ต บริษัทจึงขอแนะนำกองทุนเปิดเคแทม อาเซียน อิควิตี้ ฟันด์ (KT-ASEAN) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ JP Morgan Funds- ASEAN Equity Fund เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัท ที่มีภูมิลำเนา หรือมีผลการดำเนินงานหลักของบริษัทมาจากประเทศที่เป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียน
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3470 วันที่ 16-18 พฤษภาคม 2562
