อีซี่มันนี่ อัพเกรดโรงตึ้ง เป็นสถาบันสินเชื่อทางเลือก
หนึ่งในธุรกิจที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจจะชะลอลง นั่นคือธุุรกิจรับจำนำเพราะโรงรับจำนำยังเป็นแหล่งสภาพคล่องให้กับประชาชนในวงกว้าง โดยเห็นได้จากเงินให้สินเชื่อธุรกิจ โรงรับจำนำของธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 45.65% จาก 12,884 ล้านบาทในเดือนพฤศจิกายน 2558 เพิ่มเป็น 18,766 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2562 ท่ามกลางการแข่งขันของผู้ประกอบการ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐกว่า 800 แห่ง ซึ่ง “อีซี่ มันนี่: Easy Money” ผู้บุกเบิกโรงรับจำนำยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่โรงตึ้ง สำหรับคนที่เงินขาดมือเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งลงทุนและสถาบันสินเชื่อทางเลือกสำหรับคนไทยอีกด้วย
เพราะนอกจากสถานที่โอ่โถงเป็นสัดส่วน ทั้งส่วนบริการ เจ้าหน้าที่ต้อนรับ เจ้าหน้าที่ประเมินราคาทรัพย์แล้ว ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ตั้งแต่สแกนนิ้วมือ ออกตั๋ว หรือจัดห้องวีไอพีเป็นส่วนตัวรองรับลูกค้าที่จำนำทรัพย์หลายรายการและห้องมั่นคง สำหรับการเก็บรักษาทรัพย์อย่างปลอดภัย ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากว่า 3 ล้านรายและเงินหมุนเวียนมากกว่า 5.7 หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาที่ให้บริการมาแล้วกว่า 15 ปี
“สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด ผู้บริหารโรงรับจำนำ อีซี่ มันนี่ ระบุว่า แนวโน้มลูกค้าจะนำทรัพย์สินที่นอกจากจะมีราคาสูงหรือเป็นของหายากมาจำนำแล้ว ทรัพย์สินแต่ละชิ้นแต่ละประเภทยังมีคุณค่าทางจิตใจด้วย เช่น ชุดทองคำ ชุดเครื่องเพชรที่เป็นมรดก โดยทองคำยังมีความสวยโดดเด่นด้วยดีไซน์ไม่ซํ้าใคร เช่น เถาปิ่นโตทองคำ, หวีทองคำ, กล้องส่องพระทองคำ เงินพดด้วง นาฬิกาโรเล็กซ์ หรือ ถุงกอล์ฟกุชชี่อายุ 28 ปี
ปัจจุบัน “อีซี่ มันนี่” ถือเป็นสถาบันสินเชื่อทางเลือก เพื่อรองรับ 2 กลุ่มเป้าหมาย ทั้งมนุษย์เงินเดือนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี/สตาร์ตอัพ ด้วยจุดแข็งการประเมินราคาทรัพย์ด้วยความแม่นยำของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ โปร่งใส ปลอดภัยในการเก็บรักษาทรัพย์ พร้อมต่อยอดธุรกิจที่สะดวก ง่าย ได้เงินเร็ว ภายใต้แคมเปญ ชัวร์ อีซี่มันนี่ เพื่อตอบโจทย์สำหรับนักธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ที่ต้องการสภาพคล่อง หรือต้องการหาโอกาสลงทุนใหม่ๆ หรือขยายธุรกิจเดิม รวมถึงแก้ปัญหายามฉุกเฉินได้อย่างครอบคลุมด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก
สำหรับวงเงินจำนำต่อรายนั้น จะแบ่งเป็นมนุษย์เงินเดือนประมาณ 2 หมื่นบาท หากเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อราย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการสภาพคล่องไปหมุนเวียนชั่วคราว กรณีจำเป็นด้วยอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือนตามเพดานของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงรับจำนำ พ.ศ. 2505
“ลูกค้าเราเป็นกลุ่มที่มีทรัพย์สินจากที่ได้เก็บออมสะสม จึงนำทรัพย์มาแปลงเป็นสภาพคล่อง เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายชั่วคราว โดยไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยาก ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี หรือสตาร์ตอัพใช้การจำนำทรัพย์เป็น Bridging Loan หรือเงินทุนหมุน เวียนระยะสั้น เพื่อเป็นสภาพคล่องในการเพิ่มสต๊อกสินค้าหรือการลงทุนหรือเสริมในช่วงที่รายรับและรายจ่ายไม่สอดคล้องกัน”
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจรับจำนำยังสะท้อนดัชนีเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจากที่ได้สัมผัสลูกค้า พบว่าช่วงที่เศรษฐกิจคึกคัก ผู้ประกอบการธุรกิจต้องการสภาพคล่อง เพื่อลงทุนหรือขยายธุรกิจ โดยเห็นได้จากตัวเลขทรัพย์หลุดจำนำที่ปรับลดลง เช่น ปีที่แล้วมีทรัพย์หลุดจำนำลดเหลือเพียง 4.9% ลดลงประมาณ 0.01% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 5% ขณะที่สิ้นปี 2563 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 20%
ปัจจุบันอีซี่ มันนี่ มีลูกค้ามนุษย์เงินเดือนในสัดส่วน 75% ที่เหลือเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสตาร์ตอัพ 25% และรายได้หลักจะมาจากอัตราดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือมาจากการขายทรัพย์มือสอง (Easy Money Shop)ที่เซ็นทรัลพระราม3 และ นครราชสีมา และสิ้นปีนี้คาดว่าจะเปิดสาขาอีก 10 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 50 แห่ง ครอบคลุม 5 ภูมิภาคใน 28 จังหวัด
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,540 วันที่ 16-18 มกราคม 2563