ภาวะผู้นำที่‘ซีอีโอ’ต้องมี เพื่อรับมือโลกยุค VUCA Plus        

04 เม.ย. 2563 | 01:10 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ค. 2563 | 11:59 น.

ขณะที่แนวโน้มวิกฤติขยับเข้าใกล้มาเรื่อยๆ องค์กรต่างๆ ต้องถามตัวเองว่า มีความพร้อมรับมือมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะภายใต้สภาวะความผันผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และความคลุมเครือ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น (Volatility, Uncertainty, Complexities, Ambiguity Plus: VUCA+) บริษัทชั้นนำต่างๆ ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงควรต้องมีแนวทางในการรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ช่วงเวลานี้ถือได้ว่า เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับซีอีโอ ซึ่งจากงานวิจัยของดีลอยท์ได้แสดงให้เห็นว่า ซีอีโอองค์กรขนาดใหญ่จะสามารถสร้างความก้าวหน้าในสภาวะนี้ได้ หากมีทักษะในการปรับตัว (Un-disruptable) เป็นอาวุธ ซึ่งคุณสมบัติ 5 ด้านที่ผู้นำต่าง เห็นตรงกันว่าจำเป็นต่อซีอีโอในยุค VUCA+ มีดังต่อไปนี้ 

 

หาจุดสมดุลร่วมกันระหว่าง 2 ขั้วตรงกันข้าม (Ambidexterity)

องค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ในสภาวะ VUCA+ คือ การสร้างความสมดุลระหว่าง 2 เป้าหมายที่อาจดูสวนทางกันคือ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Exploitation) ควบคู่กับการแสวงหาสิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง (Exploration) ซึ่งซีอีโอจะต้องวิเคราะห์แนวทางในการสร้างสมดุลและการปลูกฝังแนวคิดทั้งสองในกระบวนการทำงาน โครงสร้างองค์กร และวัฒนธรรม ที่เหมาะสมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้สำเร็จ

 

ฝึกฝนความแข็งแกร่งทางอารมณ์ (Emotional Fortitude)

ความแข็งแกร่งทางอารมณ์หมายถึง ความสามารถในการแปลงความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลัน เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดประสิทธิภาพในการสร้างผลงาน และยังต้องเข้าใจว่า ความล้มเหลวในบางสถานการณ์อาจหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นซีอีโอจะต้องสื่อสารให้องค์กรเข้าใจและคุ้นชินกับการเผชิญกับความเสี่ยง โดยควรส่งเสริมให้มีวัฒนธรรมองค์กรที่ยอมรับและเรียนรู้จากความล้มเหลว

 

ภาวะผู้นำที่‘ซีอีโอ’ต้องมี เพื่อรับมือโลกยุค  VUCA Plus         

 

 

ไม่ยึดติด ไม่หยุดนิ่ง พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา (Beginner’s Mind-set)

ซีอีโอที่มีBeginner’s Mind” จะถามคำถามจำนวนมาก ฟังอย่างตั้งใจ และตรึกตรองสิ่งที่ได้รับฟัง โดยไม่มีอคติ การมีความคิดในลักษณะดังกล่าวจึงอาจทำได้ยากและขัดแย้งกับธรรมชาติของซีอีโอ แต่ในสภาวะ VUCA+ ผู้บริหารจะไม่สามารถใช้เทรนด์เดิมในการพยากรณ์ภาพในอนาคตได้อีกต่อไป ในทางตรงกันข้าม ความสำเร็จอาจขึ้นอยู่กับการที่องค์กรสามารถรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ในสถานการณ์นี้ ซีอีโอที่มีความแข็งแกร่งทางอารมณ์จะตื่นตัวที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และมีความตระหนักว่าตนยังต้องค้นคว้าอย่างไม่มีสิ้นสุด

 

สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันด้วยจูจิทซู (Disruptive Jujitsu)

Disruptive Jujitsu คือ การเรียนรู้จากการแข่งขัน เพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงในโมเดลธุรกิจองค์กรที่จะทำให้องค์กรขึ้นนำหน้าคู่แข่งได้  ผู้บริหารจะต้องสามารถเล็งเห็นความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงที่กำลังคุกคาม จำแนกองค์ประกอบของความเสี่ยงดังกล่าว นำองค์ประกอบที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กร แล้วจึงหาทางดึงองค์ประกอบดังกล่าวมาสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

 

ตอบสนองประสบการณ์ของผู้ใช้ได้อย่างครบถ้วน (End-user Ethnographer)

ในโลกของการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีได้สร้างพฤติกรรมการบริโภครูปแบบใหม่ โดยผู้บริโภคส่วนมากซื้อของออนไลน์ ผ่านสื่อโซเชียล เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา (Hyper-connected) และมีข้อมูลสินค้าอย่างท่วมท้น ดังนั้น จึงเป็นช่วงสำคัญที่ซีอีโอ จะต้องเข้าถึงประสบการณ์ของผู้บริโภคและสร้างความไว้วางใจสูงสุด การเข้าใจการใช้ชีวิตประจำวันผู้บริโภค แม้กระทั่งนิสัยเฉพาะ ความใฝ่ฝัน ตลอดจนความกังวลจิตใต้สำนึก เพื่อให้มีมุมมองที่ลึกซึ้งที่สุด

 

ซีอีโอจะสร้างความสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อสามารถปลูกฝังและรู้จักใช้คุณสมบัติทั้ง 5 ดังกล่าวในการขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างผสมผสานกลมกลืน เพื่อให้องค์กรมีความพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกยุค VUCA+ ได้อย่างแท้จริง

 

คอลัมน์ยังอีโคโนมิสต์

สุภศักดิ์ กฤษณามระ

กรรมการผู้จัดการ ดีลอยท์ ประเทศไทย

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,562 วันที่ 2-4 เมษายน 2563