ธนาคารกสิกรไทย ประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้า (สัปดาห์ถัดไป 3-7 ส.ค.) เคลื่อนไหวที่ 30.90-31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญในประเทศ ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย และปัจจัยทางการเมืองในประเทศ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือนก.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน และรายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมิ.ย.
ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องติดตาม ได้แก่สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ จีดีพีไตรมาส 2/63 ของญี่ปุ่น รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ค. ของจีน และยูโรโซนเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ
การเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังตลาดการเงินในประเทศกลับมาเปิดทำการหลังช่วงวันหยุดยาว โดยการแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปตามภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินด้วยทุกเครื่องมืออย่างเต็มรูปแบบอย่างไม่จำกัดเพื่อหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับสู่เส้นทางการฟื้นตัว
ทั้งนี้เงินบาทขยับแข็งค่าผ่านแนว 31.20 แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/63 ของสหรัฐฯซึ่งหดตัวลงลึกสุดในรอบกว่า 70 ปี
โดยวันศุกร์ (31 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.18 เทียบกับระดับ 31.70บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (24 ก.ค.)