นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้รวบรวมองค์ความรู้ภาษีสำหรับผู้ประกอบการ e – Commerce ไว้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจในการปฏิบัติทางภาษีได้อย่างถูกต้อง สามารถดำเนินธุรกิจผ่านออนไลน์ได้อย่างสบายใจ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องนำเงินได้จาก e – Commerce ไปรวมคำนวณกับเงินได้จากประเภทอื่นๆ (ถ้ามี) ซึ่งมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.94 ภายในเดือนกันยายนของทุกปี และยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90 ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป
สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือนิติบุคคลต่างประเทศที่เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย ต้องเสียภาษีจากกำไรสุทธิ ซึ่งต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี ภ.ง.ด.51 ภายใน 2 เดือนนับจากวันสุดท้ายของทุก 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี และยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.50 ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
ข่าวเกี่ยวข้อง
เตือนผู้มีเงินได้รีบยื่นภาษีภายใน 31 ส.คนี้
สรรพากรคืนเงินภาษีแล้ว 33.15 ล้านบาท
"ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่ขายสินค้าหรือให้บริการ เมื่อมีรายรับเกิน 1,800,000 บาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย" โฆษกกรมสรรพากรระบุ
ทั้งนี้ผู้ประกอบธุรกิจ e – Commerce หรือผู้ที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจ สามารถใช้ช่องทางการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ e-Filing ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th และขอแนะนำให้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจ e – Commerce มีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องยั่งยืนต่อไป