สรรพากร รับ จัดเก็บภาษีปี 64 น่าห่วงหนัก

24 ส.ค. 2563 | 12:23 น.

สรรพากรเผย คืนภาษีบุคคลธรรมดาแล้ว 95% ส่งเงินเข้าสู่ระบบกว่า 3.3 ล้านบาทแล้ว ชี้ใครยื่นไม่ทัน 31 ส.ค.นี้ อาจเสียค่าปรับ 1.5 % ได้ รับจัดเก็บภาษีปีหน้า น่าห่วงกว่าปีนี้

ในงาน Easy Tax Transforms Your Life วิถึใหม่ ให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดี กรมสรรพากร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบุคคลธรรมดาได้คืนเงินภาษี แล้วกว่า 95% หรือประมาณ 3 ล้านคน คิดเป็นเงิน 33,000 ล้านบาท ของผู้ยื่นแบบทั้งหมดประมาณ 10 ล้านราย จากจำนวน ผู้เสียภาษี ที่ต้องยืนแบบทั้งหมด 11.5 ล้านราย ขณะที่การ คืนเงินภาษีของนิติบุคคล ได้แล้วประมาณ 30,000 ล้านบาทเช่นกัน ทำให้ในช่วง 2-3 เดือน สรรพากรสามารถช่วยให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบ เพื่อดูแลเศรษฐกิจในภาพรวมได้มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัเข้ามาดูแล

 

อย่างไรก็ตามผู้ที่ยังไม่ยื่นแบบภาษีนั้น กรมสรรพากรขอให้ยื่นแบบภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เพราะไม่เช่นนั้นตามกฎหมาย จะต้องเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มถึง 1.5% ต่อเดือนของยอดภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม ซึ่งผู้เสียภาษีทีได้รับผลกระทบจากโควิด ไม่มีความสามารถในการชำระภาษีได้เต็มวงเงิน กรมได้เปิดให้มีการผ่อนชำระ 3 งวดได้ โดยไม่เสียดอกเบี้ย ซึ่งเป็นมาตรการปกติที่กรมมีไว้ช่วยผู้เสียภาษีอยู่แล้ว

 

สรรพากร รับ จัดเก็บภาษีปี 64 น่าห่วงหนัก

ส่วนนิติบุคคลที่ชำระภาษีอย่างถูกต้องที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง กรมได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อให้ปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้กับนิติบุคคลเหล่านี้แล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดส่งออกไทยปีนี้หดตัว -12% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงศก.โลก

รู้ก่อนซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ 2 รุ่น 50,000 ล้านบาท ดบ.สูง 2.2% เริ่มขาย 25 ส.ค.นี้

สรรพสามิต รับ รายได้ภาษีปีนี้ต่ำเป้า 100,000 ล้านบาท

“ภาษีอี-เซอร์วิส” บังคับใช้แน่ปีหน้า

ส่วนการจัดเก็บรายได้ภาษีในปีงบประมาณนี้ ยอมรับว่าจะต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ที่ 2.116 ล้านล้านบาท แน่นอน เพราะตัวเลขดังกล่าวตั้งไว้ก่อนการเกิดวิกฤตโควิด-19 และคาดการณ์จีดีพีขยายตัวประมาณ 3.5% ซึ่งเมื่อเกิดโควิดขึ้น ทำให้จีดีพีติดลบ ก็ทำให้รายได้ภาษีหายไปด้วย แต่จะมากน้อยเพียงใด ต้องดูจากการจัดเก็บในเดือนสิงหาคมนี้ก่อน เพราะเป็นเดือนสุดท้ายที่เปิดให้ยื่นแบบภาษีของทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

 

"ปกติแล้วหากจีดีพีขยายตัว 1% จเมีผลต่อรายได้ภาษีให้ขยายตัวขึ้น 1.1% ของเป้าการจัดเก็บ ในทางกลับกัน หากจีดีพีติดลบ 1% ก็จะมีผลต่อการจัดเก็บรายได้ให้หายไป 1.1% เช่นกัน ซึ่งเดิมก่อนมีโควิด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดการณ์จีดีพีขยายตัว 3.5% แต่ตอนนี้ติดลบประมาณ 8-9% ก็หายไปประมาณนั้น"นายเอกนิติ กล่าว

 

ส่วนในปีหน้า เป้ารายได้ตามเอกสารงบประมาณของกรมที่ได้รับอยู่ที่ 2.085 ล้านล้านบาท ก็ยังคงต้องดูว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายเดิมหรือไม่ เพราะฐานภาษีในปีหน้า จะเกิดขึ้นจากรายได้ในปีนี้ ซึ่งยอมรับว่ามีความน่าเป็นห่วงกว่าการจัดเก็บรายได้ในปีนี้ เพราะฐานภาษีของปีนี้ เกิดจากรายได้เมื่อปีก่อน ซึ่งยังไม่เกิดโควิด

 

"ฐานภาษีในปีนี้ไม่น่าห่วง แต่ปีหน้าน่าเป็นห่วง เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ต้องไปแสดงในปีหน้า ซึ่งปีนี้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากโควิดกันหมด ฉะนั้นต้องดูตัวเลขจัดเก็บรายได้อีกทีว่าเป็นอย่างไร"นายเอกนิติ กล่าว