หุ้นกลุ่มแบงก์ขยับขึ้นยกแผง รับมาตรการรวมหนี้

28 ส.ค. 2563 | 03:56 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2563 | 10:59 น.

กลุ่มแบงก์บวกยกแผง รับมาตรการรวมหนี้ลดโอกาส NPL พุ่ง ลดภาระสำรองฯ

วันที่ 28 ส.ค.63 ดัชนีกลุ่มแบงก์บวก 2.24% มาอยู่ที่ 280.39 จุด เพิ่มขึ้น 6.14 จุด หุ้นในกลุ่มแบงก์ขยับขึ้นยกแผง โดยเมื่อเวลา 10.18 น.นำโดยหุ้น TCAP บวก 3.97% มาอยู่ที่ 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 84.93 ล้านบาท

หุ้น KBANK บวก 3.51% มาอยู่ที่ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 582.05 ล้านบาท

หุ้น SCB บวก 2.75% มาอยู่ที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 337.83 ล้านบาท

หุ้น TISCO บวก 2.23% มาอยู่ที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 161.27 ล้านบาท

หุ้น TMB บวก 2.15% มาอยู่ที่ 0.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 60.20 ล้านบาท
         

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติมด้วยวิธีการรวมหนี้ ฝ่ายวิจัยมองเป็นบวกเล็ก ๆ ต่อกลุ่มธนาคาร เพราะช่วยลดโอกาสที่ลูกหนี้จะตกชั้นเป็น NPLs และช่วยลดภาระการตั้งสำรองต่อกลุ่มธนาคาร

มาตรการดังกล่าวของ ธปท.มีระยะเวลาตั้งแต่ 1 ก.ย.-31 ธ.ค.63 โดยการรวมหนี้รายย่อยอย่างสินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นเจ้าหนี้รายเดียว และปรับโครงสร้างหนี้โดยมีการยืดอายุการจ่ายหนี้ รวมถึงคิดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง MRR rate ซึ่งปัจจุบัน MRR rate ของ 4 แบงก์ใหญ่อยู่ที่ราว 5.75%-6.22% ประเมินธนาคารที่ได้ประโยชน์มากสุด คือ ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารทหารไทย(TMB), บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) และธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เพราะมีสัดส่วนลูกหนี้รายย่อย