การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างในปีนี้ นับว่า ผันผวนหนักมาก ทั้ง หุ้น ตราสารหนี้ นํ้ามัน และ ทองคำ จากวิกฤติการระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่ทำให้ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้มูลค่าการค้าโลกหดตัวและเศรษฐกิจของประเทศต่างๆชะลอตังถึงขั้นติดลบ
ทำให้ประเทศต่างๆต้องหันมาใช้ นโยบายดอกเบี้ยต่ำ เพื่อประคองเศรษฐกิจ พร้อมๆกับการอัดฉีดเงินเข้าระบบ
การลงทุนใน ตราสารหนี้ ที่เคยถูกมองว่า ปลอดภัย ก็โดนหางเลขไปด้วย แต่อย่างที่รู้กันว่า ตราสารหนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีไว้ในพอร์ต จะมากบ้างน้อยบ้าง ก็ขึ้นกับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงและเงื่อนไขอื่นของนักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถลงทุนใน ตราสารหนี้ ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทางตรง โดยการซื้อหุ้นกู้โดยตรงในตลาดแรก จากบริษัทผู้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ การลงทุนผ่านตลาดรองในตลาดตราสารหนี้
หรือจะลงทุนทางอ้อมผ่าน กองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากกองทุนรวมแล้ว นักลงทุนยังสามารถลงทุนผ่าน Bond ETF ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
Bond ETF โดย ETF ย่อมาจาก Exchanged Traded Fun คือ กองทุนรวมชนิดพิเศษ ที่มีการลงทุนในตราสารหนี้ที่หลากหลายตามดัชนีอ้างอิง โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนแบบ real-time ได้เหมือนหุ้นผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ ทำให้การซื้อขายสะดวกและช่วยกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุน
Bond ETF เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2002 ที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน Bond ETF ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ โดยกองทุน Bond ETF จะมีการลงทุนใน ตราสารหนี้ที่หลากหลายตามดัชนีอ้างอิง ขณะที่กองทุนตราสารหนี้ทั่วไปต้องซื้อขายผ่าน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) หรือตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งในเวลาที่กำหนด ในราคา NAV ณ สิ้นวัน
สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนใน Bond ETF จะไม่ต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้หรือการลงทุนในตราสารหนี้โดยตรงที่จะมาจาก 2 ส่วนคือ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขายของหน่วยลงทุน และดอกเบี้ย ซึ่งกรณีของกองทุนจะอยู่ในรูปของเงินปันผล
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสีย การลงทุน Bond ETF จะมีค่าธรรมเนียมบริหารจัดการกองทุน ขณะที่การซื้อขายตราสารหนี้รายตัวที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เนื่องจากนักลงทุนเป็นคนเลือกลงทุนเอง นอกจากนั้น ราคาตลาดของ Bond ETF ในบางช่วงอาจสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าตราสารหนี้ในพอร์ตการลงทุนของ Bond ETF ได้ตามการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับ Bond ETF ในประเทศไทย คือ กองทุน ABFTH (ABF Thailand Bond Index Fund) โดยผลตอบแทนจะอ้างอิงกับดัชนี iBoxx ABF Thailand Index เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยและรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันมีสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี โดยปัจจุบันมีราคาต่อหน่วย 1,399 บาท
ท่านใดสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โบรกมั่นใจแบงก์มั่นคงรับวิกฤติไหว
ทางเลือกที่มากกว่า...สำหรับคนมีวินัยการออม
แบงก์ไทยอึด เงินกองทุนรับหนี้เสียได้ 21%
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,607 วันที่ 6 - 9 กันยายน พ.ศ. 2563