หลังที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 มีมติอนุมัติการปลดนายณพ ณรงค์เดช ออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และแต่งตั้งให้นายประเดช กิตติอิสรานนท์ เข้ามาเป็นกรรมการ
นายณพ ณรงค์เดช อดีตรองประธานกรรมการและอดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เปิดเผยว่า ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับบริษัทตลอดเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร โดยวางรากฐานของบริษัทให้มีการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล
ที่มีคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด)ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงาน และเป็นที่ยอมรับของสังคมมากำหนดทิศทางดำเนินงานร่วมกับฝ่ายบริหาร เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เติบโตก้าวหน้า ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้ง 8 โครงการ และจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่หน่วยงานภาครัฐได้ครบตามสัญญาจำนวน 717 MW
นับตั้งแต่การเข้ามาร่วมงานกับ WEH ในฐานะผู้บริหาร ได้พยายามแก้ไขปัญหาในหลายๆ ด้าน เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมาย แม้ที่ผ่านมา จะโดนกล่าวหาด้วยข้อมูลภายในบริษัทที่เป็นเท็จ เพื่อจุดประสงค์ต้องการดิสเครดิต แต่ก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่บริษัท จนสามารถชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเร็วกว่ากำหนดถึง 2 ปี และเตรียมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นหลังชำระเงินกู้งวดสุดท้ายภายในสิ้นปีนี้
“ผมเคารพมติในที่ประชุม แต่สิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจ คือ ยังไม่ได้ทำตามความตั้งใจสูงสุดที่ต้องการนำพา WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามที่สัญญาไว้กับผู้ถือหุ้นทุกท่าน”นายณพกล่าว
ทั้งนี้ ผมขอขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านและผู้ถือหุ้นที่ได้รับฟังความจริงและไม่มีข้อสงสัยใดๆ กับข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้น และผมขอให้กำลังใจคณะกรรมการชุดใหม่และผู้บริหารทุกท่าน เพื่อผลักดันการเติบโตของบริษัท และนำพา WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สมดั่งเจตนารมย์ของผู้ถือหุ้นทุกท่าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ถือหุ้น 'วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ' มีมติปลด 'ณพ ณรงค์เดช' ออกจากบอร์ด
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยังสรุปวาระที่ต้องการให้ตรวจสอบ เช่น ค่า marketing, CSR และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆว่า ทางนายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการเห็นว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นไปตามกรอบงบประมาณเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยได้แต่งตั้งที่ปรึกษาบัญชีเพื่อตรวจสอบว่าการใช้จ่ายมีประสิทธิภาพหรือไม่
ส่วนประเด็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยเฉพาะค่าที่ปรึกษากฎหมาย เนื่องจากเป็นคดีความฟ้องร้องที่อังกฤษ เป็นค่าใช้จ่ายของผู้บริหารที่เป็นคนอังกฤษ ส่วนคดีความของตนนั้นได้ใช้เงินส่วนตัวทั้งหมด
นายณพกล่าวต่อว่า ประเด็นเรื่องเงินปันผลและการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัดทรัพย์ฯ มองว่า ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน บริษัทจะต้องชำระคืนเงินกู้ 8,000 ล้านบาทก่อน จึงจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ ซึ่งปัจจุบันเหลือหนี้ในส่วนนี้เพียง 200 ล้านบาท คาดว่า จะสามารถคืนหนี้ได้เร็วๆ นี้ และจ่ายปันผลได้
ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์และการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อไหร่ เพราะยังมีเรื่องคดีความที่อังกฤษ ที่ดินสปก. และความต่อเนื่องของกรรมการและผู้บริหาร แต่ยืนยันว่าคุณสมบัติของบริษัทและตนเองไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าจดทะเบียน