www.ลงทะเบียนคนละครึ่ง.com พร้อมเติมเงินในแอปเป๋าตัง หลังปล่อยอัปเดตให้มีช่องคนละครึ่ง

20 ต.ค. 2563 | 21:09 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ต.ค. 2563 | 01:35 น.

www.ลงทะเบียนคนละครึ่ง.com กระทรวงการคลังพร้อมเติมเงินในแอปเป๋าตัง หลังปล่อยอัปเดตให้มีช่องคนละครึ่งแล้ว รอเริ่มใช้ 23 ต.ค.

วันนี้ 21 ต.ค. ผ่านไปแล้ว 5วัน สำหรับ โครงการคนละครึ่ง เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนคนละครึ่ง ได้ที่ www.คนละครึ่ง.com ทั้งสิ้น 10 ล้านสิทธ โดยเปิดให้ ลงทะเบียนคนละครึ่ง วันแรก คือ วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าประชาชนลงทะเบียนแล้วกว่า 6,307,974 ล้านราย ยังคงเหลือสิทธิให้ประชาชน ลงทะเบียนคนละครึ่ง อีกจำนวน 3,692,026 ล้านสิทธิ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

www.ลงทะเบียนคนละครึ่ง.com เหลือสิทธิลงทะเบียนอีก 4 ล้านสิทธิ

รับสิทธิ www.คนละครึ่ง.com เปลี่ยนใจลงทะเบียนช้อปดีมีคืนได้หรือไม่ที่นี่มีคำตอบ

แอปเป๋าตัง เติมเงินจ่าย คนละครึ่ง ได้เมื่อไหร่ เช็กที่นี่

www.คนละครึ่ง.com เตือนประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตนได้รับสิทธิ์ต้องใช้ภายใน 14 วัน

 

ความคืบหน้าล่าสุดโครงการคนละครึ่ง ฐานเศรษฐกิจ ได้ตรวจสอบพบว่ากระทรวงการคลัง พร้อมเติมเงิน  และได้ ปล่อยอัปเดตช่องโครงการคนละครึ่งแล้ว ให้กับผู้ได้รับสิทธิ ลงทะเบียนคนละครึ่ง ในวันที่ 23 ต.ค.เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ได้รับสิทธิทางโครงการคนละครึ่ง ต้องโหลด แอปเป๋าตัง เมื่อโหลดแอปเป๋าตัง แล้วเสร็จ ไปที่หน้า G-Wallet กด+เติมเงินเข้า G-Wallet กดเติมเงินเข้าG-Wallet  มีสถาบันการเงินให้เติมเงินจำนวน 11 แห่ง เช่น กรุงไทย ไทยพาณิชย์ และ กสิการไทย เป็นต้น

 

www.ลงทะเบียนคนละครึ่ง.com พร้อมเติมเงินในแอปเป๋าตัง หลังปล่อยอัปเดตให้มีช่องคนละครึ่ง

 

www.ลงทะเบียนคนละครึ่ง.com พร้อมเติมเงินในแอปเป๋าตัง หลังปล่อยอัปเดตให้มีช่องคนละครึ่ง

 

www.ลงทะเบียนคนละครึ่ง.com พร้อมเติมเงินในแอปเป๋าตัง หลังปล่อยอัปเดตให้มีช่องคนละครึ่ง

 

สำหรับโครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่รัฐร่วมจ่ายผ่านฝ่ายผู้ซื้อ 50% โดยไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท/คน ตลอดโครงการ

 

วัตถุประสงค์

  • เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น

วิธีดำเนินโครงการ

  1. ประชาชนและร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ตามวันและเวลาที่กำหนด
  2. เมื่อลงทะเบียนผ่านแล้ว ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน ดังนี้
    • ประชาชน ติดตั้งแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เพื่อใช้จ่าย
    • ร้านค้า ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า
  3. ประชาชนจะต้องใช้จ่ายเงิน ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิหรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ
  4. ภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปผ่านฝ่ายของผู้ซื้อร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ 

ระยะเวลาดำเนินการ

  • ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563 (3 เดือน)
  • กำหนดการลงทะเบียน
    • ร้านค้า เริ่ม 1 ตุลาคม 2563 เวลา 6.00 – 23.00 น.
    • ประชาชนน เริ่ม 16 ตุลาคม 2563 เวลา 6.00 – 23.00 น.
  • ช่วงระยะเวลใช้จ่าย 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 เวลา 6.00 – 23.00 น.

คุณสมบัติผู้ที่ลงทะเบียน

  • อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • สัญชาติไทย
  • ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

***ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากมีการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตรฯ)

ร้านค้า

  • การลงทะเบียน
    • ลงทะเบียนวันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือแจ้งผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย
    • ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า
  • เงื่อนไข
    • ต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป แผงลอย โชห่วย ที่ไม่ใช่นิติบุคคล และไม่ใช่ร้านค้าสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น
    • ส่วนร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล เช่น ร้านสะดวกซื้อ รัฐบาลจะไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ
    • ร้านค้าเดิมที่เคยร่วมโครงการรัฐทั้งชิมช้อปใช้และเราเที่ยวด้วยกันไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

ประชาชน

การลงทะเบียน

  • ลงทะเบียนวันที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 – 23.00 น. จนกว่าจะครบ 10 ล้านสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
  • หลังลงทะเบียนภายใน 2 วันจะได้รับ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่
  • เมื่อได้รับ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาแล้วให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
  • ผู้ได้รับสิทธิต้องยืนยันตัวตนผ่าน g-Wallet แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” อีกขั้นตอนหนึ่งด้วย จึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้
  • เงื่อนไขการใช้จ่าย
    • จะมีช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น.
    • ผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิหรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก โดยสิทธิที่ถูกตัดจะนำไปเปิดให้ลงทะเบียนใหม่

ข้อกำหนดเพิ่มเติม

  • โครงการนี้รัฐบาลจะช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าให้ 50% ของมูลค่าสินค้า แต่ไม่เกินวันละ 150 บาทต่อวันต่อคน และตลอดทั้งโครงการให้สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
    • ตัวอย่าง หากซื้อสินค้าจำนวน 300 บาท เราจ่ายเอง 150 บาท รัฐบาลจ่ายให้ 150 บาท หรือกรณีที่ซื้อสินค้า 350 บาท เราต้องจ่ายเอง 200 บาท รัฐบาลจ่ายให้ 150 บาทต่อวันเท่านั้น
  • การซื้อสินค้าจะต้องจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น ดังนั้น ก่อนซื้อสินค้า ต้องเติมเงินเข้าแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นนำไปสแกนกับแอปพลิเคชันถุงเงิน ของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
  • “วงเงินของภาครัฐ” ต้องใช้ให้หมดวันต่อวันไม่สามารถเก็บไว้ใช้ในวันต่อไปได้ ส่วนเงินที่ผู้เข้าร่วมโครงการเติมเองสามารถเก็บไว้ได้หรือจะโอนเข้าบัญชีธนาคารของตนเองก็ทำได้
  • หลังจากซื้อสินค้า รัฐบาลจะโอนเงินให้กับร้านค้าจำนวน 50% ของสินค้าที่ซื้อ สูงสุด 150 บาท ให้กับร้านค้าในวันถัดไป
  • ครอบคลุมสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป (ไม่รวมล็อตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และการบริการ)
  • โครงการนี้จะไม่ใช่การโอนเงินสดให้ไปกดใช้เอง เพื่อป้องกันการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

สอบถามเพิ่มเติม

  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697, 3527, 3548, 3509
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144