นางสาวสุภัค ไชยวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีร้องเรียนถึงการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ว่า หากได้รับข้อร้องเรียน กระทรวงการคลังจะประสานกับหน่วยงานที่ดูแลร้านค้าเหล่านี้ เช่น หากเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไปที่อยู่ในการควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ก็จะให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปตรวจสอบ และหากเป็นร้านโอทอป จะให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งหากพบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาจริง จะให้หน่วยงานกำกับดำเนินการเตือนไปยังร้านค้า หากพบว่ายังกระทำความผิดซ้ำเดิมอยู่ กระทรวงการคลังจะตัดสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการทันที
“ตามเงื่อนไขก่อนเข้าโครงการระบุอยู่แล้วชัดเจน หากทำผิดก็จะถูกตัดสิทธิ์ และจะถูกตัดบัญชีการรับจ่ายเงินที่จะโอนเข้าทันทีเช่นกัน แต่หากพบว่ามีความผิดฉวยโอกาสขึ้นราคาครั้งแรก ก็จะให้หน่วยงานไปตักเตือน เป็นการให้โอกาส แต่หากยังทำผิดอีกก็จะตัดสิทธิ์ตามเงื่อนไข”นางสาวสุภัค กล่าว
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงินสศค. ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะขยายสิทธิ์ผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งจาก 10 ล้านคนเพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องจากต้องรอหลังจากวันที่ 10 พ.ย.2563 ที่จะรู้ว่าจำนวนผู้ถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากไม่ใช้จ่ายภายในเวลา 14 วันตามเวลาที่กำหนด ว่ามีมากน้อยเพียงใด