ธปท.-บีซีไอชูจุดเด่น L/G ผ่านบล็อกเชน ชวยลดต้นทุนเหลือหลักสิบจากพันบาทต่อฉบับ
ธปท.-บีซีไอ จับมือ กฟภ.ให้บริการออกหนังสือค้ำประกันผ่านบล็อกเชน “eLG on Blockchain”ประเมิน 4ปีธุรกิจตอบรับเต็ม100% เผย 6ปีถึงจุดคุ้มทุน 530ล้านบาท
บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ 6 ธนาคารประกอบด้วย บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งจากเงินลงทุนเริ่มต้นของ 6 ธนาคารพาณิชย์ไทย คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย และธนาคารไทยพาณิขย์ ทุนจดทะเบียนชำระเต็ม 530ล้านบาทเพื่อพัฒนา “โครงการหนังสือค้าประกันอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Letter of Guarantee ” ล่าสุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นรัฐวิสาหกิจแห่งแรกของไทยเลือกใช้บริการ eLG on Blockchain
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโนบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า โครงการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Letter of Guarantee ” เป็น use case แรก ซึ่งถือเป็นระบบงานแรกที่นำบล็อกเชนมาใช้กับการจัดการหนังสือค้าประกัน ซึ่งมีปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมให้บริการแล้ว 17 ราย ผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศและบริษัทในเครือกว่า 50 บริษัท และกฟภ. จะเป็นรัฐวิสาหกิจรายแรกของประเทศไทยที่ผู้รับผลประโยชน์เป็นภาครัฐ นอกจากนี้จะยังมีผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นภาครัฐเข้าร่วมเพิ่มขึ้นในปลายปีนี้
“โครงการนี้อยู่ระหว่างการทดสอบนวัตกรรมใน Sandbox ของธปท.เพื่อติดตามผลทดสอบและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ภายใต้นโยบายที่ส่งเสริมให้ภาคการเงินมีการพัฒนานวัตกรรม ในรูปแบบดิจิทัลที่หลากหลาย ไม่ว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบเปิด การกำหนดมาตรฐานที่สำคัญร่วมกัน เพื่อส่งผลให้ผู้ใช้งานแต่ละรายร่วมกันใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ก่อให้เกิดการแบ่งปันแนวคิดและองค์ความรู้ ส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกัน รวมทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-กสิกรไทย เปิดบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบล็อกเชน
-กสิกรฯลั่น 5 ปี L/G ออนไลน์ลดต้นทุนพันล.
นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั้งภาครัฐและเอกชนตอบรับและใช้บริการ หนังสือค้ำประกัน eLG on Blockchain แล้ว 48 ราย คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 58 ราย ก่อนจะเพิ่มเป็น 200รายในปี 2564 คาดว่า ภายใน 4 ปีข้างหน้าภาคธุรกิจและเอกชนจะให้การตอบรับมาใช้ธุรกรรม eLG on Blockchain ครบทั้ง 100% จากปัจจุบันผู้ประกอบการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มแล้วประมาณ 50-60% ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการออก L/G ที่มีต้นทุนเฉลี่ย 500-1,000 บาทต่อฉบับ ลดลงมาเหลือหลัก 10 บาท หรือเกือบ 10 เท่าและยังช่วยลดเวลาการตรวจสอบเอกสารจาก 9 วันเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ล่าสุดได้ให้บริการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการออกหนังสือค้ำประกัน ซึ่งช่วยให้ กฟภ. ลดเวลาการดำเนินงานได้กว่า 3 เท่า
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้บีซีไอ ตั้งเป้าเพิ่มการใช้งานหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนบล็อกเชนเป็น 50% ของหนังสือค้ำประกันทั้งประเทศ ภายใน 3 ปี จากมูลค่าหนังสือค้ำประกันผ่านระบบสถาบันการเงินไทยทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 1.35 ล้านล้านบาท จำนวนมากกว่า 500,000 ฉบับต่อปี
นอกจากนี้ ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 จะเปิดให้บริการการออกหนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Confirmation) มาพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยี Blockchain เพื่อเข้ามาสนับสนุน การทำงานของผู้สอบบัญชีและธนาคารในการตรวจสอบบัญชีของบริษัท หรือเรียกว่าโครงการหนังสือรับรองทางการเงินผ่านระบบบล็อกเชน (Bank Confirmation on Blockchain) โดยคาดว่ามีบริษัทนิติบุคคลและมูลนิธิเข้ามาใช้บริการกว่า 6 แสนราย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและมีความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น
“คาดว่าบีซีไอจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 6ปีจากทุนจดทะเบียนชำระเต็ม 530ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาบริการใหม่ออกมาเป็นโครงการที่ 3 ซึ่งอนาคตบริษัทสามารถจะระดมทุนได้”
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมารองรับการให้บริการด้านพลังงานไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าเพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ความทันสมัย ตลอดจนความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรได้อีกด้วย โดยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบล็อกเชนในครั้งนี้ กฟภ. ได้เริ่มเปิดใช้บริการครั้งแรกในเดือนมีนาคมด้านการค้ำประกันการใช้ไฟฟ้า
และถัดมาด้านการค้ำประกันงานจัดซื้อจัดจ้างในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นรัฐวิสาหกิจรายแรกของไทย และเป็นตัวแทนของหน่วยงานภาครัฐที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาบริการ eLG on Blockchain ซึ่งมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนภาครวมเศรษฐกิจของประเทศ
นายสิริวัฒน์ เกียรติเจริญสิน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หนังสือค้ำประกันLetter of Guarantee on Blockchainจะช่วยลดต้นทุน ลดขั้นตอนการทำงาน ภายใต้ความปลอดภัยระดับโลก โดยเป็นการรับรองหนังสือค้ำประกันผ่านระบบ Cloud Technology ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งช่วยให้การใช้งานคล่องตัว ปลอดภัย เชื่อถือได้ ป้องกันการปลอมแปลงหนังสือค้ำประกัน รองรับการทำธุรกรรม และสามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ ทำให้ผู้ออกหนังสือค้ำประกันสามารถวางหนังสือค้ำประกันได้เร็วขึ้น ผู้รับวางหนังสือค้ำประกันสามารถตรวจสอบเอกสารได้อย่างรวดเร็วบนระบบอิเล็กทรอนิกส์ 100%