นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 3 ปี 2563 ว่าเศรษฐกิจไทยหดตัวที่ -6.4% ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม และปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่หดตัว -12.1% และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน เศรษฐกิจไทยขยายตัวระดับสูงที่ 6.5% ต่อไตรมาสหลังปรับผลของฤดูกาล แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวขึ้น ได้แก่ การใช้จ่ายของรัฐบาลและการลงทุนภาครัฐขยายตัวเร่งขึ้นที่ 3.4% และ 18.5% โดยเป็นผลจากการเร่งเบิกจ่ายในครึ่งหลังของปีงบประมาณและการขยายตัวทั้งการลงทุนในสิ่งก่อสร้างและเครื่องมือเครื่องจักร รวมถึง การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชนหดตัวชะลอลงที่ -0.6% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวสูง -6.8% สะท้อนการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงภาวะปกติ และการส่งออกสินค้าหดตัว -7.7% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัว -15.9% โดยการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวได้ดี นำโดยสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น ปลากระป๋องและปลาแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารสัตว์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ดังนั้นกระทรวงการคลังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2563 และสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้อีกครั้งในปี 2564 โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 และ 2564 อีกครั้ง ณ สิ้นเดือนม.ค. 2564