คนละครึ่งเฟส 2 สรุป ต้นธันวาคมนี้

 

ใน งาน Wealth Forum : ลงทุนอย่างไร..ให้รวย ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เห็นได้จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ที่ติดลบ 6.4% ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ 2 ที่ติดลบ 12.1% ซึ่งแม้ยังติดลบ แต่หากเทียบรายไตรมาส ถือว่าเป็นบวกกว่าไตรมาสก่อนหน้ามาก ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จะยังฟื้นตัวต่อเนื่อง และผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีหน้ากลับมาขยายตัวเป็นบวกที่ 3.5-4.5%

 

อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลัง ก็ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการทางการคลังดูแลเศรษฐกิจต่อ โดยเฉพาะ มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เร่งสรุป การขยายมาตรการคนละครึ่งเฟส2 และการเติมเงินค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯในการพิจารณาในต้นเดือนธ.ค.นี้ ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป

 

ทั้งนี้ในส่วนของคนละครึ่งเฟสที่ 2 นั้น กระทรวงการคลังจะพยายามเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เข้ามามีส่วนร่วมทั้งหมด แต่จะมีการขยายจำนวนผู้ที่ได้สิทธิ์เท่าไร และเพิ่มวงเงินอีกมากน้อยเพียงใด ได้ให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ไปตรวจสอบข้อมูลยอดลงทะเบียนทั้งหมดที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร เพื่อนำมาประเมินการขยายจำนวนสิทธิ์และวงเงินที่เหมาะสมต่อไป แต่เบื้องต้นผู้ที่ได้รับสิทธิ์เฟส 1 แล้ว จะได้สิทธิ์เฟส 2 โดยอัตโนมัติ พร้อมกับได้วงเงินเพิ่มเติมรวมถึงขยายเวลาการใช้จ่ายให้ถึงต้นปีหน้ายาวต่อไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 12 ก.พ.2564

 

ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาเพิ่มเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ปัจจุบันได้รับเพิ่มเดือนละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือนด้วย ส่วนการลงทะเบียนผู้ถือบัตรฯ รอบใหม่นั้น จะเริ่มภายหลังจากโครงการคนละครึ่งสิ้นสุดลงแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"คลัง" พร้อมมากมอบของขวัญปีใหม่"คนละครึ่งเฟส2 

ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส2 มีแน่รอลุ้นรัฐเพิ่มวงเงิน 

ร่วม "คนละครึ่งเฟสสอง" ต้องใช้สิทธิ 3000 ให้ครบ

 

นายกฤษฎา กล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ในโครงการเหล่านี้ มีเพียงพอแน่นอน เพราะสามารถนำเงินจากพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่เป็นส่วนของงบฟื้นฟู 400,000 ล้านบาท มาใช้ดำเนินการได้ แต่จะเป็นเท่าไร ต้องขึ้นอยู่กับการศึกษาความเหมาะสมต่างๆ ก่อน

"ตอนนี้อยู่ระหว่างให้กรุงไทยไปดูคนที่เคยเข้าลงทะเบียนว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพื่อใช้ประเมินในการขยายสิทธิ์ให้ครอบคลุมคนที่อยากได้ เช่น อาจจะเพิ่มเป็น 14-15 ล้านคน ก็ได้ แต่จะต้องดูทั้ง 3 กลุ่ม เพราะถ้าคนไหนคิดว่ามีฐานการเสียภาษีเกิน 10% ก็ควรใช้ช้อปดีมีคืน ซึ่งจะได้เงินคืนอย่างน้อย 3,000 บาท แต่ต้องประเมินก่อน ซึ่งจะดูในภาพรวมทั้งหมด ทั้งคนละครึ่งและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และวงเงินที่ต้องใช้ด้วย"นายกฤษฎา กล่าว

 

นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังได้สั่งการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เร่งจัดทำของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าที่ผ่อนชำระดี จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่ม เช่นที่ผ่านมาที่กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ลดเงินต้นให้กับนักเรียน นักศึกษาที่ชำระหนี้ดี เป็นต้น