นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ เอ็นแฮนซท์ เอไอ 1YA (SCB Fixed Income Enhanced Fund 1YA : SCBEAI1YA) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย อายุโครงการ 1 ปี เพื่อลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้
พร้อมทั้งลงทุนในธุรกรรมสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภท Forward โดยมีหุ้นกู้เป็นทรัพย์สินอ้างอิง (Bond Forward) เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนมากขึ้น โดยเปิดขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 24 – 27 พฤศจิกายน 2563 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
สำหรับ SCBEAI1YA มีกลยุทธ์การลงทุนคล้ายกองทุนประเภท Term Fund และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนด้วยการเข้าเป็นคู่สัญญาในธุรกรรม Bond Forward ซึ่งพอร์ตลงทุนจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 ลงทุนทั้งจำนวนในเงินฝากทั้งในและต่างประเทศและ/หรือตราสารหนี้คุณภาพดีที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับลงทุนได้ขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุนมีโอกาสได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมผลตอบแทน ซึ่งกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ส่วนที่ 2 กองทุนจะเข้าเป็นคู่สัญญาในธุรกรรม Bond Forward ในฐานะผู้ซื้อหุ้นกู้อ้างอิงตามรายละเอียดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยคู่สัญญาและหุ้นกู้อ้างอิงมีอันดับความน่าเชื่อถือระดับลงทุนได้ขึ้นไป
สำหรับเงื่อนไขการจ่ายเงินต้นและผลตอบแทนของกองทุนมี 2 กรณี คือ เมื่อถึงวันครบกำหนดอายุของธุรกรรมและไม่เกิดเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อการชำระราคาและการส่งมอบหุ้นกู้อ้างอิงก่อนวันครบกำหนดอายุของธุรกรรม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะทำการชำระราคาเป็นเงินสด โดยการหักกลบลบหนี้ระหว่างกันตามรายละเอียดที่ระบุในสัญญา หักด้วยค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) และกองทุนจะชำระคืนเงินต้นและผลตอบแทนจากการลงทุนในส่วนที่ 1 รวมถึงผลตอบแทนจากการเข้าทำธุรกรรม Bond Forward ในส่วนที่ 2 หักด้วยค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
กรณีที่ 2) เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลให้มีการชำระราคาและการส่งมอบหุ้นกู้อ้างอิงก่อนวันครบกำหนดอายุของธุรกรรมตามที่กำหนดไว้ในสัญญา กองทุนต้องนำเงินส่วนที่ 1 มาชำระเงินให้แก่ธนาคารคู่สัญญาเท่ากับราคาซื้อขายที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) และธนาคารคู่สัญญาจะส่งมอบหุ้นกู้อ้างอิงให้แก่กองทุน
ดังนั้น ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้เงินต้นและผลตอบแทนจากส่วนที่ 1 เต็มจำนวน เนื่องจากกองทุนอาจต้องนำเงินมาชำระให้แก่ธนาคารคู่สัญญา และในส่วนที่เหลืออยู่ กองทุนจะถือจนครบกำหนดอายุของทรัพย์สินและชำระให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนของจำนวนหน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนถือครอง
“ด้วยสภาวะโดยรวมที่ดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในระดับต่ำ กองทุนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนประเภท Term Fund ซึ่งจุดเด่นของกองทุนนี้เราจะลงทุนในตราสารหนี้ที่อันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ทั้งพอร์ตลงทุน โดยผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลทาง credit ที่จะช่วยลดความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจอีกกองทุนหนึ่งในช่วงสภาวะผันผวนเช่นนี้ ”นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะลงทุน SSF-RMF ช่วงโค้งสุดท้ายปี