ในที่สุดวันนี้ (8 ธ.ค.) คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบศ.) ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เพื่อนำเสนอให้ ครม. พิจารณาในที่ 8 ธ.ค.
โดยล่าสุด ครม.ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อันได้แก่ คนละครึ่งเฟส2 ,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ เราเที่ยวด้วยกัน รายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” ได้สรุปรายละเอียดทั้ง 3 โครงการ ติดตามอ่านจากบรรทัดถัดจากนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.เห็นชอบโครงการคนละครึ่งเฟส 2 เปิดลงทะเบียนเช้า 16 ธ.ค.นี้
ส่อง 8 เงื่อนไขโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"หลังครม.เห็นชอบแล้ว
ครม.เห็นชอบเพิ่มวงเงิน 500 บาทบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
“คนละครึ่ง" เฟส 2 ครม.เคาะเงื่อนไขอย่างเป็นทางการวันนี้ 8 ธ.ค.
เห็นชอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขคนละครี่งเฟส2
- เปิดลงทะเบียนวันที่ 16 ธันวาคมนี้ เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
- คนละครึ่งเฟส 2 เริ่ม 1 มกราคม-31 มีนาคม 2564 โดยกลุ่มเป้าหมาย 15 ล้านคน รายเดิม 10 ล้านคน และรายใหม่อีก 5 ล้านคนรวมถึงผู้ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง
- ผู้ที่ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 1 ผลลงทะเบียนเดิมจะได้สิทธิสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป จากภาครัฐเพิ่มเติม 500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 หรือไม่เกิน 3,500 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
- ผู้ลงทะเบียนใหม่ 5 ล้านสิทธิ เริ่มลงทะเบียนในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และยืนยันตัวตนผ่านระบบ G-Wallet แอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง" เพื่อรับสิทธิตามโครงการ
- สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 และจะได้สิทธิไม่เกิน 3,500 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
คุณสมบัติ
- ประชาชน
- สัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวันลงทะเบียนมีบัตรประจำตัวประชาชน
- ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ร้านค้า
- ร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ จำหน่ายสินค้าประเภท อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และบริการต่างๆ
ระยะเวลาดำเนินโครงการ
- 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. 64
มูลค่าโครงการ
เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- จำนวน 500 บาท
- เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม - เดือนมีนาคม 2564
- จำนวนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน
ปรับปรุงโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"
- ปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิจำนวนการจองห้องพักจากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ เพิ่มเป็น 15 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ
- เพิ่มจำนวนห้องพักในโครงการจากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน ทั้งนี้ จำนวนห้องที่เพิ่มมาจะสนับสนุนเฉพาะ E-voucher แต่ไม่อุดหนุนเรื่องค่าเครื่องบิน
- ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการถึง 30 เมษายน 2564
- ขยายช่วงเวลาการจองที่พัก จากเวลา 06.00 – 21.00 น. เป็นเวลา 06.00 – 24.00 น.
- เพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตฯ ธุรกิจโรงแรม แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและพยุงการจ้างงาน
- อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวสามารถใช้ระบบคูปองออนไลน์ (E-Voucher) ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพหรือธุรกิจการขนส่งภาคท่องเที่ยว
- ปรับปรุงเกณฑ์สนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินจากเดิมรัฐสนับสนุน 40% แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 สิทธิ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อ 1 สิทธิ เฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องการภาคการท่องเที่ยวต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และ เชียงราย
- กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน