นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการ"คนละครึ่ง"เฟส 2 จะทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 45,000 ล้านบาท และการจ่ายเงินให้กับผู้มีรายได้น้อยผ่าน"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ให้อีก 500 บาท อีก 3 เดือน จะทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบประมาณ 21,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปีหน้าขยายตัวดีขึ้น โดยจะสามารถช่วยเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ได้
อย่างไรก็ตามสศค.ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัวได้ดีกว่า 4.5% ตามที่คาดการณ์เดิมหรือไม่ในเชิงของตัวเลข เพราะจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะทำให้ฐานตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ดีขึ้น ก็จะมีผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจในปีหน้าให้ลดลงได้
“เดิมเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา สศค.คาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ติดลบ 7.7% แต่พอ สศช.ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 คือดีขึ้นกว่าที่คาดมาก อาจทำให้ทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าที่คิด ก็จะทำให้ฐานในปีนี้สูงขึ้น มีผลต่อตัวเลขจีดีพีปีหน้า ที่เราตั้งไว้ว่าจะขยายตัวได้ 4.5% ตัวเลขอาจจะลดลง แต่เป็นการลดลงที่มีการฟื้นตัว มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน”นางสาวกุลยา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนละครึ่ง ยังเปิดรับสมัครร้านค้าร่วมโครงการรีบสมัครด่วนเฟส2 กำลังมา
"คนละครึ่ง" รัฐฯมั่นใจ ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งทะลุ 1 ล้านร้านค้า
อย่างไรก็ตาม สศค.จะมีการประกาศประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปีหน้าในช่วงเดือนม.ค.2564 อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะต้องรอติดตาม เพราะเศรษฐกิจไทยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง ทั้ง สถานการณ์โควิด-19 ว่าจะมีล็อกดาวน์อีกหรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นอีก ก็ยังเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากเท่าปีนี้ เพราะมีการล็อกดาวน์นานถึง 3 เดือนด้วยกัน
รวมไปถึงติดตามสถานการณ์ภาคบริการของไทยว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อใด หลังจากไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทย และนโยบายการเงินการคลังของสหรัฐใหม่ ว่าจะเป็นอย่างไร รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในไทย ที่แม้มองว่าขณะนี้ไม่ได้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีนัยยะมากนักก็ตาม