คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของเฟดในปีนี้
แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย 2%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดาวโจนส์ปิดลบ 44 จุด ขณะที่ Nasdaq ทำนิวไฮ
พยากรณ์อากาศวันนี้ ไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
เฟดยังระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้อในระยะสั้น และสร้างความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง
นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จนกระทั่งบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
ขณะเดียวกัน เฟดยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจประจำไตรมาสเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ
ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงเพียง 2.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 3.7% ก่อนที่จะมีการขยายตัว 4.2% ในปี 2564 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4% และจะขยายตัว 3.2% ในปี 2565 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3% และจะขยายตัว 2.4% ในปี 2566 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.5% รวมทั้งจะขยายตัว 1.8% ในระยะยาว จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.9%
เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ โดยคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.4% และอยู่ที่ระดับ 1.8%, 1.9% ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ
นอกจากนี้ เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงาน โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.7% ในปีนี้ ขณะที่แตะระดับ 5%, 4.2% และ 3.7% ในปี 2564, 2565 และ 2566 ตามลำดับ