ธปท.เผยโควิดระลอกใหม่รุนแรงเกว่าที่ประเมินไว้ เฉพาะต้นเดือนม.ค.64ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นผ่านช่องทางต่างๆ “การบริโภคภาคเอกชน- ภาคบริการและภาคการท่องเที่ยว”ตามมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น พร้อมประเมินสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงเร็วและไม่แน่นอนสูง
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนธันวาคม2563 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินและการประเมินภาวะเศรษฐกิจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยภายใต้การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 รุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ ทำให้ความเสี่ยงด้านต่ำ (downside risks) มีโอกาสเกิดสูงขึ้น ประมาณการเศรษฐกิจในปี 2564 และ 2565 จึงมีโอกาสที่จะต่ำกว่ากรณีฐาน โดยสถานการณ์ล่าสุด ณ วันที่ 4 มกราคม 2564 มีการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัดและประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น อีกทั้งยังไม่มีกำหนดระยะเวลาของมาตรการที่แน่นอน
สำหรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ การบริโภคภาคเอกชนจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นตามมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น ภาคบริการและภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงทั่วประเทศ สำหรับภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบน้อย โดยอาจมีอุปสรรคด้านการขนส่งสินค้าบ้าง อย่างไรก็ดี พัฒนาการด้านการจัดซื้อวัคซีนของไทยมีความคืบหน้ามากกว่าที่ประเมินไว้ ล่าสุดรัฐบาลได้ประกาศการจัดซื้อวัคซีนจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทำให้การกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงอาจทำได้เร็วกว่าคาด รวมถึงยังมีแผนการจัดหาวัคซีนให้ได้ครอบคลุม 50% ของประชากรภายในปี 2564