อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 30.12 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่า”จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.07 บาทต่อดอลลาร์ ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 30.00-30.20 บาทต่อดอลลาร์
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์ตลาดการเงินและวางแผนการลงทุน EASY INVEST บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS)ระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่ากว่าสกุลเงินเอเชียเนื่องจากมีความกังวลเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจและการระบาดของโคโรนาไวรัสในประเทศ ขณะเดียวกันก็มีแรงขายบอนด์กดดันเพิ่มเติม แม้ช่วงหลังจะมีแรงซื้อหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้เงินบาทแข็งค่า เรามองว่าเกิดจากมุมมองของตลาดที่เชื่อว่าการลงทุนในฝั่งเอเชียไม่มีเรื่องที่น่าสนใจเท่าฝั่งสหรัฐ สัปดาห์นี้จึงแนะนำจับตาทิศทางของตลาดหุ้นเป็นหลัก คาดว่าจะเงินทุนเริ่มเคลื่อนกลับมาในฝั่งเอเชียก็ต่อเมื่อหุ้นสหรัฐพักฐานหรือตลาดกลับมาสนใจเรื่องการอ่อนค่าของดอลลาร์อีกครั้ง
กรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 29.90-30.30 บาทต่อดอลลาร์
ในสัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดจะจับตาไปที่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐ แนวโน้มการผลิต และการแจกจ่ายยาต้านไวรัสเป็นหลัก
ฝั่งการเมือง รัฐสภาสหรัฐมีโอกาสที่จะยื่นถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เร็วที่สุดในวันอังคาร อย่างไรก็ดี ต้องรอการประชุมของวุฒิสภาซึ่งตามกำหนดจะมีขึ้นหลังจากที่นายโจ ไบเดนเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดี ส่วนด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะตั้งงบเพิ่มเติมอีก 7.5 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนเริ่มมองว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐอาจมีการขึ้นภาษี เพื่อเป็นการปรับสมดุลย์เศรษฐกิจไปพร้อมกันหลังจากมีเสียงเพียงพอในทั้งสองสภา
ด้านตลาดเงิน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วงสัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังตัวหลังการเมืองสหรัฐกลับมาร้อนแรง ขณะที่การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีมาที่ระดับ 1.12% พร้อมกับตลาดหุ้นที่ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ก็เป็นสองปัจจัยบวกกับพื้นฐานของเงินดอลลาร์มากขึ้นด้วย ในสัปดาห์นี้จึงต้องจับตาทิศทางของตลาดทุนต่อ คาดว่าฝั่งสหรัฐยังมีความน่าสนใจกว่าทั่วโลกอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเงินดอลลาร์ไม่อ่อนค่าลงเร็วในระยะสั้น
กรอบดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) สัปดาห์นี้ 89.6-90.6 จุด ระดับปัจจุบัน 90.07จุด
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เช้านี้ (11 ม.ค.) อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ในกรอบประมาณ 30.12-30.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับปิดตลาดปลายสัปดาห์ก่อนที่ 30.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยบอนด์ยิลด์อายุ 10 ปี ขยับขึ้นแตะระดับ 1.125% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มี.ค. ปีที่แล้ว ท่ามกลางความหวังของตลาดเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า จะมีวงเงินสูงถึงหลักล้านล้านดอลลาร์ฯ
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 30.00-30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยนอกจากจะรอติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกและในไทยแล้ว จุดสนใจสำคัญในระหว่างสัปดาห์ จะอยู่ที่การเปิดเผยรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ของสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้ ได้แก่ ข้อมูลเงินเฟ้อที่วัดจาก CPI และ PPI ของจีน