นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี 2563 ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจไทยในวงกว้าง หลายธุรกิจมียอดสั่งซื้อลดลง หรือจำต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว ตามมาตรการการควบคุมโรคระบาด ส่งผลกระทบต่อรายได้หรือสภาพคล่องของธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ Micro SME
ธนาคาร ไทยเครดิต จึงเพิ่มวงเงิน สินเชื่อ SME กล้าให้ เพื่อให้เพียงพอต่อการเสริมสภาพคล่องหรือแม้แต่ขยายธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ Micro SME พร้อมดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่มีหลักประกัน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายทางธุรกิจและช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้อีกครั้งหนึ่ง
นายนาธัส กฤตวรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ธนาคาร ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด(มหาชน)กล่าวเสริมว่า สินเชื่อ SME กล้าให้ จะมีทางเลือกที่หลากหลายทั้งที่แบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน เพื่อความยืดหยุ่น สามารถรองรับความต้องการและความพร้อมที่หลากหลาย
สำหรับลูกค้าที่มีหลักประกัน จะให้วงเงินสินเชื่อเต็มมูลค่าราคาประเมินหลักประกัน สูงสุด 30 ล้านบาทสำหรับลูกค้าที่ต้องการวงเงินสูงสุดและยังเพิ่มวงเงินสูงสุดเป็น 3 เท่าของราคาประเมินหลักประกัน แต่ไม่เกิน 20 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่มีหลักประกัน แต่มูลค่าไม่เพียงพอต่อวงเงินที่ต้องการ ซึ่งทั้ง 2 ข้อเสนอ ลูกค้าจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน โดยสามารถใช้เงินฝาก ที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรือห้องชุดเป็นหลักประกันได้
“สำหรับลูกค้าที่ไม่มีหลักประกัน จะเพิ่มวงเงินสูงสุดเป็น 10 ล้านบาท พร้อมข้อเสนอพิเศษรับเงินไวภายใน 5 วันทำการธนาคาร หลังจากเอกสารครบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำเงินไปใช้หมุนเวียนเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจได้ทันต่อความต้องการในสถานการณ์วิกฤตนี้ โดยผู้ประกอบการ Micro SME สามารถสมัครสินเชื่อพร้อมรับข้อเสนอพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2564"นายนาธัสกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธนาคารไทยเครดิต จัดอบรมโครงการพ่อค้าแม่ค้าพากเพียร
กรุงไทยตั้งเป้าโตสินเชื่อเอสเอ็มอี ปี 63 โต3%
จัดกลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอี บีบใช้บัญชีเดียวกู้แบงก์ ขึ้นค่าแรงกดดัชนีเชื่อมั่น