สรรพสามิต เตรียมรื้อภาษียาสูบ สกัดบุหรี่เถื่อนทะลักเข้าไทย

29 ม.ค. 2564 | 06:14 น.
อัปเดตล่าสุด :06 เม.ย. 2564 | 22:30 น.

อธิบดีกรมสรรสามิต เผยเตรียมรื้อโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ หลังพบบุหรี่เถื่อนจากเพื่อนบ้านทะลักเข้าไทย คาดชัดเจน มี.ค.นี้

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ หลังพบการลักลอบขนบุหรี่ผิดกฎหมายเข้ามาจำหน่ายในไทยจำนวนมาก เนื่องจากส่วนต่างด้านราคาที่จูงใจให้เกิดการกระทำผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามโครงสร้างภาษียาสูบใหม่จะต้องพิจารณาใน 4 ประเด็นหลัก คือ การดูแลเกษตรกร ด้านสุขภาพ การลดแรงจูงใจลักลอบขนสินค้าเถื่อน และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนมีนาคม หลังจากนั้นจะเสนอขอความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง  และจะเริ่มใช้โครงสร้างภาษียาสูบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ทั้งนี้ในแต่ละปีกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้จากภาษียาสูบประมาณปีละ 60,000 ล้านบาท 

 

“หลังการปรับโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ มองว่าจะทำให้บุหรี่เถื่อนลดลง คาดจะมีความชัดเจนภายในเดือนมีนาคมนี้ เพราะต้องหาจุดที่พอดี ตอบโจทย์ทั้ง 4 ประเด็น โดยไม่โดเด่นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง” อธิบดีกรมสรรพามิต กล่าว

สำหรับการจัดเก็บรายได้ภาษีในปีงบประมาณ 2563 พบว่า กรมสรรพสามิตมีรายได้ 145,591ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขในเอกสารงบประมาณ 2.5% หรือประมาณ 3,777 ล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2564 คาดจะลดลง 2%-3% จากเอกสารงบประมาณ  เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งจากตัวเลขในเอกสารงบประมาณได้ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 4%-5%

ทั้งนี้ (29 มกราคม 2564) อธิบดีกรมสรรสามิตร ได้แถลงผลการจับกุมบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกรมสรรสามิตได้รับแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ผ่านสายด่วน 1713 ผู้แจ้งให้ข้อมูลว่ามีผู้ใช้ Line เพื่อจำหน่ายบุหรี่หนีภาษี โดยใช้ไอดีไลน์ “@Jackkee” ซึ่งบุหรี่ดังกล่าวมีการลับลอบนำเข้ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และจำนำบุหรี่ไปเก็บไว้ที่บ้านพัก เพื่อรอจำหน่ายให้แก่ลูกค้า โดยได้วางแผนทลายสถานที่เก็บบุหรี่และจับกุมผู้กระทำผิดจำนวน 2 จุด โดยตรวจค้นพบบุหรี่ที่ยังมิได้เสียภาษีจำนวนทั้งสิ้น 201,200 ซอง จำนวนมูลค่าของกลาง 16,096,000 บาท สร้างความเสียหายให้แก่รัฐ 11,267,200 บาท และคิดเป็นค่าปรับจำนวน 169,008,000 บาท

 

สำหรับผลการปราบปรามในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 รอบ 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 28 มกราคม 2564 พบมีการกระทำผิด จำนวน 9,595 คดี คิดเป็นค่าปรับ 177.19 ล้านบาท โดยสินค้าผิดกฎหมายที่จับกุมได้สูงสุด 3 อันดับแรก ไดแก่  สุรา จำนวน 5,438 คดี ค่าปรับ 49.67 ล้านบาท ยาสูบ จำนวน 2,858คดี ค่าปรับ 67.01 ล้านบาท ไพ่จำนวน 222 คดี ค่าปรับ 2.75 ล้านบาท